เมนู

ด้วยจักขุวิญญาณ ไม่พึงทำกาละ.
สัญญาเวทยิตกถา ที่ 3 จบ

อรรถกถาตติยสัญญาเวทยิตกถา



ว่าด้วย สัญญาเวทยิตนิโรธที่ 3



บัดนี้ ชนเหล่าใด มีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายราชคิริกะทั้งหลาย
ว่า แม้ผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติพึงทำกาละได้ โดยถือหลักว่า
ชื่อว่าความแน่นอนไม่มีเพราะความที่สัตว์ทั้งหลายมีความตายเป็นธรรมดา
ดังเช่นคำว่า ผู้โน้นตาย ผู้โน้นยังไม่ตาย ดังนี้ คำถามของสกวาทีเพื่อ
แสดงถึงเวลาตายและมิใช่เวลาตาย เพราะความที่บุคคลแม้เข้าสมาบัติ
ก็มีความตายเป็นธรรมดา คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. ลำดับนั้น
สกวาทีจึงกล่าวกะปรวาทีนั้นว่า ผัสสะอันเกิดในสมัยมีความตายเป็น
ที่สุด
เป็นต้น เพื่อท้วงด้วยอาการที่ว่าผัสสะอันเกิดในเวลาที่มีความตาย
เป็นธรรมดา ชื่อว่าพึงมีแก่ผู้กระทำกาละโดยอาการนั้นหรือ.
ถูกถามว่า บุคคลผู้ไม่มีผัสสะมีการกระทำกาละ เป็นต้น ปรวาที
ตอบปฏิเสธโดยหมายเอาสัตว์ที่เหลือ คือนอกจากผู้เข้าสมาบัตินั้น.
ถูกถามคำว่า ยาพิษพึงเข้าไป เป็นต้น ก็ตอบปฏิเสธโดยหมาย
เอาอานุภาพแห่งสมาบัติ. แต่ตอบรับรองในครั้งที่ 2 โดยหมายเอาสรีระ
ปกติ. ก็ถ้าเมื่อความเป็นเช่นนั้นมีอยู่ ชื่อว่าอานุภาพแห่งสมาบัติก็ไม่มี
ด้วยเหตุนั้นนั่นแหละ สกวาทีจึงซักปรวาทีว่า มิได้เข้านิโรธหรือ.
คำถามว่า บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ ไม่พึงทำกาละหรือ
เป็นของปรวาที. ในปัญหาของปรวาทีว่า นิยามอันเป็นเหตุกำหนด

โดยแน่นอนมีอยู่ แต่ชื่อว่า นิยามอย่างนี้ไม่มี เหตุใด เพราะเหตุนั้น
สกวาทีจึงตอบปฏิเสธ. คำว่า ผู้พรั่งพร้อมด้วยจักขุวิญญาณ เป็นต้น
ที่สกวาทีกล่าวก็เพื่อแสดงว่า ครั้นเมื่อนิยามเช่นนี้แม้ไม่มีอยู่ สัตว์ก็ต้อง
ตายตามเวลาเท่านั้น ย่อมไม่ตายโดยมิใช่เวลา ดังนี้.
ในปัญหานั้น มีคำอธิบายว่า ถ้าว่า การทำกาละพึงมีเพราะความ
ไม่มีนิยามไซร้ การทำกาละนั้นก็จะพึงมีแม้แก่ผู้พรั่งพร้อมด้วยจักขุวิญญาณ
เพราะสัตว์ย่อมไม่ตายย่อมไม่เกิดด้วยวิญญาณ 5 ดังนี้ เพราะฉะนั้น
ความผิดพลาดในพระสูตรพึงมี เหมือนการทำกาละย่อมไม่มีแก่ผู้พรั่งพร้อม
ด้วยจักขุวิญญาณ ฉันใด การทำกาละก็ย่อมไม่มีแม้แก่ผู้เข้านิโรธสมาบัติ
ฉันนั้น ด้วยประการฉะนี้แล.
อรรถกถาตติยสัญญาเวทยิตนิโรธ จบ

อสัญญสัตตูปิกากถา



[1630] สกวาที สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นเหตุให้เข้าถึงภพ
แห่งอสัญญสัตว์ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. กุศลมูลคืออโลภะ กุศลมูลคืออโทสะ กุศลมูลคือ
อโมหะ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ของบุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิต-
นิโรธมีอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กุศลมูลคืออโลภะ กุศลมูลคืออโทสะ ฯลฯ ปัญญาของ
บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ไม่มีหรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า กุศลมูลคืออโลภะ กุศลมูลคืออโทสะ กุศลมูล
คือ โมหะ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ของบุคคลผู้เข้าสัญญาเวท-
ยิตนิโรธไม่มี ก็ต้องไม่กล่าวว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ เป็นเหตุให้
เข้าถึงภพแห่งอสัญญสัตว์.
[1631] ส. สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ เป็นเหตุให้เข้าถึงภพ
แห่งอสัญญสัตว์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต ของบุคคลผู้เข้า
สัญญาเวทยิตนิโรธ มีอยู่หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต ของบุคคลผู้เข้า