เมนู

อรรถกถาสังคหิตกถา



ว่าด้วย ธรรมที่สงเคราะห์กันได้



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องธรรมที่สงเคราะห์กันได้. ในปัญหานั้น ชนเหล่าใด
มีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายราชคิริกะ และสิทธัตถิกะทั้งหลายว่า
ธรรมบางเหล่าชื่อว่า สงเคราะห์กันได้กับธรรมบางเหล่า ดุจโคคู่หนึ่ง
มีโคพลิพัทเป็นต้น ที่เขาผูกไว้ด้วยเชือกเป็นต้น ย่อมไม่มี เหตุใด เพราะ
เหตุนั้น ธรรมทั้งหลายบางอย่างที่สงเคราะห์กับธรรมทั้งหลายบางอย่าง
จึงไม่มี ครั้นเมื่อความเป็นเช่นนี้มีอยู่คำเป็นต้นว่า การสงเคราะห์รูปโดย
ความเป็นอันเดียวกันได้ ก็ไม่มีประโยชน์ ดังนี้ คำถามของสกวาที หมาย
ถึงชนเหล่านั้น เพื่อจะแสดงความที่ธรรมสงเคราะห์กันได้ด้วยอรรถ
อย่างหนึ่ง คำตอบรับรองเป็นของปรวาทีด้วยสามารถแห่งลัทธิของตน.
บัดนี้การสงเคราะห์ธรรม อันบัณฑิตย่อมหาได้ด้วยอรรถอันใด เพื่อแสดง
อรรถอันนั้น พระสกวาทีจึงเริ่มคำว่า ธรรมบางเหล่าที่ท่านสงเคราะห์
เข้าไว้ด้วยธรรมบางเหล่าไม่มีหรือ
. คำทั้งหมดนั้นมีอรรถง่ายทั้งนั้น
เหมือนอย่างโคพลิพัทคู่ 1 ที่เขาล่ามไว้ด้วยทามหรือเชือก นี้เพื่อตั้ง
ลัทธิของตน บัณฑิตพึงทราบว่า ลัทธิของปรวาทีนั้นถูกสกวาทีผู้ไม่ยินดี
คำอุปมานั้น ไม่คัดค้านคำอุปมานั้นทำลายเสียแล้ว ด้วยคำว่า หากว่าโค
พลิพัทคู่ 1 เขาล่ามไว้ด้วยทามหรือเชือก... ด้วยเหตุนั้นนะ ท่านจึงต้อง
กล่าวว่าธรรมบางเหล่าที่ท่านสงเคราะห์ไว้ด้วยธรรมบางเหล่ามีอยู่
ดังนี้.
ในข้อนี้ พึงทราบเนื้อความว่า ถ้าว่า ชื่อว่าโคพลิพัทเป็นต้นที่เขาสงเคราะห์
กัน คือผูกไว้คู่หนึ่งสำหรับเทียมแอก ด้วยเชือกเป็นต้น ตามลัทธิของท่าน
ไม่มีไซร้ ธรรมทั้งหลายบางอย่างที่สงเคราะห์กันได้ก็ไม่มี ดังนี้.
อรรถกถาสังคหิตกถา จบ