เมนู

เท่านั้น ไม่พึงกล่าวว่า แม้เพราะสังขารเป็นปัจจัยก็เกิดอวิชชาได้ อุปาทาน
เกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัยเท่านั้น ไม่พึงกล่าวว่า แม้เพราะอุปาทานเป็น
ปัจจัยก็เกิดตัณหาได้.
[1614] ส. คำว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
จึงเกิดเป็นนามรูป แม้เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ก็เกิดวิญญาณได้
ดังนี้ เป็นสูตร
มีอยู่จริง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าอย่างนั้น สังขารก็เกิดแม้เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
อวิชชาก็เกิดแม้เพราะสังขารเป็นปัจจัย อุปาทานก็เกิดแม้เพราะตัณหา
เป็นปัจจัย ตัณหาก็เกิดแม้เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย น่ะสิ.
อัญญมัญญปัจจยกถา จบ

อรรถกถาอัญญมัญญปัจจยกถา



ว่าด้วย อัญญมัญญปัจจัย



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องอัญญมัญญปัจจัย. ในเรื่องนั้นชนเหล่าใดมีความ
เห็นผิดดุจลัทธินิกายมหาสังฆิกะทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายย่อมเกิด
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย นี้เท่านั้นเป็นแบบแผน คำว่าอวิชชาย่อมเกิดแม้
เพราะสังขารเป็นปัจจัยไม่มีในลัทธิ เพราะฉะนั้น อวิชชาเท่านั้นจึงเป็น
ปัจจัยแก่สังขารทั้งหลาย แต่สังขารทั้งหลายหาได้เป็นปัจจัยแก่อวิชชาไม่
ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น เพื่อแสดงเนื้อความว่า แม้
ความเป็นปัจจัยแก่กันและกันของปัจจัยทั้งหลายมีอวิชชาและสังขาร
เป็นต้นมีอยู่ ดังนี้ คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. ในคำว่า อวิชชาเกิด

พร้อมกับสังขารมิใช่หรือ นี้ท่านถือเอาอปุญญาภิสังขารอย่างเดียว
เพราะฉะนั้น ในคำว่า แม้เพราะสังขารเป็นปัจจัยก็เกิดอวิชชาได้ นี้
บัณฑิตพึงทราบความเป็นปัจจัยด้วยอำนาจสหชาตะ อัญญมัญญะ อัตถิ
อวิคตะสัมปยุตตปัจจัย.
ในคำว่า แม้เพราะอุปาทานเป็นปัจจัยก็เกิดตัณหา นี้ อธิบายว่า
ยกเว้นกามุปาทานเสียแล้ว บัณฑิตพึงทราบว่า อุปาทานที่เหลือ 3 ย่อม
เป็นปัจจัยแก่ตัณหา ดุจสังขารทั้งหลายเป็นปัจจัยแก่อวิชชา. คำที่เหลือ
พึงทราบตามพระบาลีนั่นแหละ. คำถามว่า เพราะชรามรณะเป็นปัจจัย
เป็นต้น เป็นของปรวาที. คำถามว่า เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิด
นามรูป
เป็นต้น เป็นของสกวาที ดังนี้แล.
อรรถกถาอัญญมัญญปัจจยกถา จบ

อัทธากถา



[1615] สกวาที อัทธา คือ ระยะกาล เป็นปรินิปผันนะ ได้แก่
สภาวะที่สำเร็จแล้ว หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เป็นรูป หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เป็นเวทนา ฯลฯ เป็นสัญญา ฯลฯ เป็นสังขาร ฯลฯ
เป็นวิญญาณ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อัทธาส่วนอดีต เป็นปรินิปผันนะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นไป หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. เป็นเวทนา ฯลฯ เป็นสัญญา ฯลฯ เป็นสังขาร ฯลฯ
เป็นวิญญาณ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อัทธาส่วนอนาคต เป็นปรินิปผันนะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นไป หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เป็นเวทนา ฯลฯ เป็นสัญญา ฯลฯ เป็นสังขาร ฯลฯ
เป็นวิญญาณ หรือ ?