เมนู

อัญญมัญญปัจจยกถา



[1611] สกวาที สังขารเกิด เพราะอวิชชาเป็นปัจจัยเท่านั้น ไม่
พึงกล่าวว่า แม้เพราะสังขารเป็นปัจจัยก็เกิดอวิชชาได้ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. อวิชชาเกิดพร้อมกับสังขาร มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า อวิชชาเกิดพร้อมกับสังขาร ด้วยเหตุนั้นนะ
ท่านจึงต้องกล่าวว่า แม้เพราะอวิชชาเป็นปัจจัยก็เกิดสังขารได้ แม้เพราะ
สังขารเป็นปัจจัยก็เกิดอวิชชาได้.
[1612] ส. อุปาทานเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัยเท่านั้น ไม่พึง
กล่าวว่า แม้เพราะอุปาทานเป็นปัจจัยก็เกิดตัณหาได้ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ตัณหาเกิดพร้อมกับอุปาทาน มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า ตัณหาเกิดพร้อมกับอุปาทาน ด้วยเหตุนั้น
ท่านจึงต้องกล่าวว่า แม้เพราะตัณหาเป็นปัจจัยก็เกิดอุปาทานได้ แม้เพราะ
อุปาทานเป็นปัจจัยก็เกิดตัณหาได้.
[1613] ป. คำว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะชราและมรณะเป็น
ปัจจัย จึงเกิดชาติ เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงเกิดภพ
ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง
หรือ ?
ส. ไม่มี.
ป. ถ้าอย่างนั้น สังขารก็เกิดเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย

เท่านั้น ไม่พึงกล่าวว่า แม้เพราะสังขารเป็นปัจจัยก็เกิดอวิชชาได้ อุปาทาน
เกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัยเท่านั้น ไม่พึงกล่าวว่า แม้เพราะอุปาทานเป็น
ปัจจัยก็เกิดตัณหาได้.
[1614] ส. คำว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
จึงเกิดเป็นนามรูป แม้เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ก็เกิดวิญญาณได้
ดังนี้ เป็นสูตร
มีอยู่จริง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าอย่างนั้น สังขารก็เกิดแม้เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
อวิชชาก็เกิดแม้เพราะสังขารเป็นปัจจัย อุปาทานก็เกิดแม้เพราะตัณหา
เป็นปัจจัย ตัณหาก็เกิดแม้เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย น่ะสิ.
อัญญมัญญปัจจยกถา จบ

อรรถกถาอัญญมัญญปัจจยกถา



ว่าด้วย อัญญมัญญปัจจัย



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องอัญญมัญญปัจจัย. ในเรื่องนั้นชนเหล่าใดมีความ
เห็นผิดดุจลัทธินิกายมหาสังฆิกะทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายย่อมเกิด
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย นี้เท่านั้นเป็นแบบแผน คำว่าอวิชชาย่อมเกิดแม้
เพราะสังขารเป็นปัจจัยไม่มีในลัทธิ เพราะฉะนั้น อวิชชาเท่านั้นจึงเป็น
ปัจจัยแก่สังขารทั้งหลาย แต่สังขารทั้งหลายหาได้เป็นปัจจัยแก่อวิชชาไม่
ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น เพื่อแสดงเนื้อความว่า แม้
ความเป็นปัจจัยแก่กันและกันของปัจจัยทั้งหลายมีอวิชชาและสังขาร
เป็นต้นมีอยู่ ดังนี้ คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. ในคำว่า อวิชชาเกิด