เมนู

ส. มหาภูตรูป เป็นสาสวะ1 เป็นสัญโญชนียะ ฯลฯ เป็น
สังกิเลสิกะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อริยรูป เป็นสาสวะ เป็นสัญโญชนียะ ฯลฯ เป็น
สังกิเลสิกะ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1569] ป. ไม่พึงกล่าวว่า อริยรูปอาศัยมหาภูตรูป หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ มหาภูตรูป 4 และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป 4
ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. ถ้าอย่างนั้น อริยรูปก็อาศัยมหาภูตรูป น่ะสิ.
อริยรูปกถา จบ

อรรถกถาอริยรูปกถา



ว่าด้วย อริยรูป



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องอริยรูป คือรูปของพระอริยะ หรือรูปเป็นอริย.
ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายอุตตราปถกะทั้งหลาย
ว่า สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะเป็นอุปาทารูป คือรูปอาศัย เพราะ
พระบาลีว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง คือมหาภูตรูป 4

1. สาสวะ แปลว่า เป็นอารมณ์ของอาสวะ แม้คำต่อ ๆ ไป ก็แปลโดยนัยเดียวกัน เช่น สัญโญชนียะ
แปลว่า เป็นอารมณ์ของสัญโญชน์ ดูนิทเทสในธรรมสังคณีปกรณ์.

และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป 4 คืออุปาทารูป 24 ดังนี้ คำถามของสกวาที
ว่า อริยรูปอาศัยมหาภูตรูป ดังนี้ หมายถึงชนเหล่านั้น บัณฑิตพึงทราบ
วิเคราะห์คำว่า อริยรูป ในปัญหานั้น ดังนี้ว่า รูปแห่งพระอริยะทั้งหลาย
ชื่อว่า อริยรูป หรือว่า รูป คือ อริยะ ชื่อว่า อริยรูป. ในปัญหานั้น ปรวาที
ตอบรับรองว่า ใช่ เพราะตั้งอยู่ในลัทธิ. ถูกถามว่า อริยรูปเป็นกุศลหรือ
ก็ตอบรับรองด้วยสามารถแห่งลัทธินั่นเหละ. แม้ในคำถามว่า อริยรูป
เป็นอนาสวะ เป็นอาสวะ
เป็นต้น ก็นัยนี้.
พระสูตรว่า รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นต้น อธิบายว่า ยกเว้น
มหาภูตรูปเสียแล้ว ย่อมแสดงถึงความที่รูปทั้งหลายที่เหลือเป็นอุปาทารูป
มิใช่แสดงถึงความที่สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะเหล่านั้นเป็นรูป จริงอยู่
ความที่สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะเหล่านั้นไม่สำเร็จเป็นไปสักอย่าง
ความเป็นอุปาทารูปของสัมมาวาจาเป็นต้นนั้นจะมีมาแต่ที่ไหน เพราะ
ฉะนั้น พระสูตรนี้จึงไม่สำเร็จดังคำที่อ้างนั้น ดังนี้แล.
อรรถกถาอริยรูปกถา จบ

อัญโญ อนุสโยติกถา



[1570] สกวาที กามราคานุสัยอย่างหนึ่ง กามราคปริยุฏฐาน
ก็อย่างหนึ่ง หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. กามราคะอย่างหนึ่ง กามราคปริยุฏฐานก็อย่างหนึ่ง
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กามราคะอันนั้น กามราคปริยุฏฐานก็อันนั้นแหละ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กามราคานุสัยอันนั้น กามราคปริยุฏฐานก็อันนั้น
แหละ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1571] ส. ปฏิฆานุสัยอย่างหนึ่ง ปฏิฆปริยุฏฐานก็อย่างหนึ่ง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ปฏิฆะอย่างหนึ่ง ปฏิฆปริยุฏฐานก็อย่างหนึ่ง หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ปฏิฆะอันนั้น ปฏิฆปริยุฏฐานก็อันนั้นแหละ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ปฏิฆานุสัยอันนั้น ปฏิฆปริยุฏฐานก็อันนั้นแหละ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1572] ส. มานานุสัยอย่างหนึ่ง มานปริยุฏฐาน ก็อย่างหนึ่ง หรือ ?