เมนู

อนันตรปัจจยกถา



[1561] สกวาที โสตวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่งจักขุวิญญาณ
หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจอันใด เพื่อความเกิดขึ้นแห่ง
จักขุวิญญาณ ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจนั้นแหละ เพื่อความเกิดขึ้นแห่ง
โสตวิญญาณ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เพราะโสตวิญญาณเกิดขึ้นได้ ในลำดับแห่งจักขุ-
วิญญาณ ฉะนั้นจึงไม่พึงกล่าวว่า ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจอันใด เพื่อ
ความเกิดขึ้นแห่งจักขุวิญญาณ ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจอันนั้นแหละ
เพื่อความเกิดขึ้นแห่งโสตวิญญาณ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. โสตวิญญาณเกิดขึ้นแก่ผู้ไม่นึกถึงอยู่ ฯลฯ ผู้ไม่ตั้งใจ
อยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. โสตวิญญาณ ย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้นึกถึงอยู่ ฯลฯ แก่ผู้
ตั้งใจอยู่ มิใช่ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่าโสตวิญญาณย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้นึกถึงอยู่ ฯลฯ
ผู้ตั้งใจอยู่ ก็ต้องไม่กล่าวว่า โสตวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่งจักขุวิญญาณ.
[1562] ส. โสตวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่งจักขุวิญญาณ

หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. จักขุวิญญาณย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้กระทำไว้ในใจซึ่งนิมิต
คือรูป หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. โสตวิญญาณเกิดขึ้นแก่ผู้กระทำไว้ในใจซึ่งนิมิตคือ
รูป หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1563] ส. จักขุวิญญาณ มีรูปเป็นอารมณ์อย่างเดียว ไม่มี
อย่างอื่นเป็นอารมณ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. โสตวิญญาณมีรูปเป็นอารมณ์อย่างเดียว ไม่มีอย่างอื่น
เป็นอารมณ์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. จักขุวิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยจักษุและรูป หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. โสตวิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยจักษุและรูป หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. โสตวิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยจักษุและรูป หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. คำว่าโสตวิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยจักษุและรูป
ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง หรือ ?

ป. ถูกแล้ว.
ส. คำว่า จักขุวิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยจักขุและรูป
ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า คำว่า จักขุวิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยจักษุ
และรูป ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง ก็ต้องไม่กล่าวว่า โสตวิญญาณเกิดขึ้น
เพราะอาศัยจักขุและรูป.
ส. โสตวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่งจักขุวิญญาณ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. จักขุวิญญาณอันนั้น โสตวิญญาณก็อันนั้นแหล่ะ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1564] ส. ฆานวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่งโสตวิญญาณ
ฯลฯ ชิวหาวิญญาณ เกิดขึ้นลำดับแห่งฆานวิญญาณ ฯลฯ
[1565] ส. กายวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่งชิวหาวิญญาณ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจอันใด เพื่อความเกิดขึ้นแห่ง
ชิวหาวิญญาณ ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจอันนั้นแหละ เพื่อความเกิดขึ้น
แห่งกายวิญญาณ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เพราะกายวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับ แห่งชิวหา-

วิญญาณ ฉะนั้นจึงไม่พึงกล่าวว่า ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจอันใด เพื่อ
ความเกิดขึ้นแห่งชิวหาวิญญาณ ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจอันนั้นแหละ
เพื่อความเกิดขึ้นแห่งกายวิญญาณ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กายวิญญาณเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ไม่นึกถึงอยู่ ฯลฯ
ผู้ไม่ตั้งใจอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กายวิญญาณย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้นึกถึงอยู่ ฯลฯ
ผู้ตั้งใจอยู่มิใช่ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า กายวิญญาณย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้นึกถึงอยู่
ฯลฯ ผู้ตั้งใจอยู่ ก็ต้องไม่กล่าวว่า กายวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่ง
ชิวหาวิญญาณ.
[1566] ส. กายวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่งชิวหาวิญญาณ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ชิวหาวิญญาณย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ทำไว้ในใจซึ่ง
นิมิตคือรส หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กายวิญญาณเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ทำไว้ในใจ ซึ่งนิมิต
คือรส หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

ส. ชิวหาวิญญาณมีรสเป็นอารมณ์อย่างเดียว มิได้มี
อย่างอื่นเป็นอารมณ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กายวิญญาณมีรสเป็นอารมณ์อย่างเดียว มิได้มี
อย่างอื่นเป็นอารมณ์ หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. ชิวหาวิญญาณเกิดขึ้นได้เพราะอาศัยลิ้นและรส หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กายวิญญาณเกิดขึ้นได้เพราะอาศัยลิ้นและรส หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กายวิญญาณเกิดขึ้นได้เพราะอาศัยลิ้นและรส หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. คำว่ากายวิญญาณเกิดขึ้นได้เพราะอาศัยลิ้นและรส
ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง หรือ ?
ป. ไม่มี.
ส. คำว่า ชิวหาวิญญาณเกิดขึ้นได้เพราะอาศัยลิ้นและ
รส
ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า คำว่า ชิวหาวิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยลิ้น
และรส
ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง ก็ต้องไม่กล่าวว่า กายวิญญาณเกิดขึ้น
เพราะอาศัยลิ้นและรส.
ส. กายวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่งชิวหาวิญญาณ

หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ชิวหาวิญญาณอันนั้น กายวิญญาณก็อันนั้นแหละ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1567] ป. ไม่พึงกล่าวว่า วิญญาณ 5 เกิดขึ้นในลำดับแห่งกัน
และกัน หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. บุคคลบางคน ฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรีเห็นรูป
ด้วย ฟังเสียงด้วย สูดกลิ่นด้วย ลิ้มรสด้วย ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วย ใน
ขณะเดียวกัน มีอยู่ มิใช่ หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า บุคคลบางคน ฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี
เห็นรูปด้วย ฟังเสียงด้วย กลิ่นด้วย ลิ้มรสด้วย ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วย
ในขณะเดียวกัน มีอยู่ ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้องกล่าวว่า วิญญาณ 5
เกิดขึ้นในลำดับแห่งกันและกันแล.
อนันตรปัจจยกถา จบ

อรรถกถาอนันตรปัจจยกถา



ว่าด้วย อนันตรปัจจัย



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องอนันตรปัจจัย. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็น
ผิดดุจลัทธิของนิกายอุตตราปถกะทั้งหลายว่า วิญญาณเหล่านี้เกิด
ติดต่อกันและกันไม่มีอะไรคั่น เพราะเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยรวดเร็ว
ในการเห็นรูป และการฟังเสียงเป็นต้น ในการฟ้อนรำขับร้องเป็นต้น