เมนู

ครรภ์มารดานั้น เติบโตขึ้นในครรภ์มารดานั้น ด้วยอาหาร คือ ข้าว น้ำ
และโภชนะ ที่มารดาของตนบริโภค
ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าอย่างนั้น ผม ขน เล็บ ฟัน กระดูก ก็เกิดแก่สัตว์
ผู้อยู่ในครรภ์มารดา ในภายหลังน่ะสิ.
สฬายตนุปปัตติกถา จบ

อรรถกถาสฬายตนุปปัตติกถา



ว่าด้วย ความเกิดขึ้นแห่งสฬายตนะ



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องความเกิดขึ้นสฬายตนะ คืออายตนะภายใน
6. ในเรื่องนั้น อายตนะภายใน 6 ของโอปปาติกะกำเนิดทั้งหลายย่อม
เกิดขึ้นพร้อมกับปฏิสนธิจิตดวงที่แสวงหาการเกิดนั่นแหละ. ในบรรดา
อายตนะภายในทั้ง 6 สำหรับของคัพภเสยยกะทั้งหลาย มีมนายตนะกับ
กายายตนะเท่านั้นเกิดขึ้นพร้อมกับปฏิสนธิจิต ส่วนอายตนะ 4 ที่เหลือ
ย่อมเกิดขึ้นในราตรี 7 และ 7 หมายความว่าทุก ๆ หนึ่งสัปดาห์. ลัทธิ
ของสกวาทีว่า อายตนะเหล่านั้นแลถือกำเนิดใหม่ด้วยกรรมอันใดเพราะ
ความที่กรรมอันนั้นนั่นแหละ หรือว่ากรรมอันอื่นเป็นกรรมอันตนทำแล้ว
ดังนี้.
อนึ่ง ชนเหล่าใด มีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายปุพพเสลิยะ และ
อปรเสลิยะทั้งหลายว่า อายตนะภายใน 6 อันเป็นพืช ย่อมเกิดในท้อง
ของมารดาในขณะแห่งปฏิสนธินั่นแหละ เพราะความเกิดจากรรมอัน

1. สํ. ส. 15/803.

เดียวกัน ดุจหน่อแห่งต้นไม้เป็นต้นที่มีกิ่งก้านคาคบอันสมบูรณ์แล้ว ดังนี้
คำถามของสกวาทีว่า อายตนะ 6 เป็นต้น หมายถึงชนเหล่านั้น คำ
ตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำว่า บุคคลมีอวัยวะน้อยใหญ่ครบครัน
เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อท้วงด้วยคำว่า เมื่อสฬายตนะมีอยู่ สัตว์ผู้จะเกิด
ในครรภ์ก็พึงเป็นเช่นนี้ ๆ แล้วจึงก้าวลงสู่ท้องมารดา. คำถามว่า
จักขายตนะเกิดขึ้นแก่สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดาในภายหลัง เป็นของ
ปรวาที. คำถามข้างหน้าว่า ไม่พึงกล่าววา ผม ขนเป็นต้นเกิดแก่สัตว์
ผู้อยู่ในครรภ์มารดาในภายหลังหรือ
เป็นของปรวาที คำที่เหลือในที่นี้
มีอรรถตื้นทั้งนั้น แล.
อรรถกถาสฬายตนุปปัตติกถา จบ

อนันตรปัจจยกถา



[1561] สกวาที โสตวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่งจักขุวิญญาณ
หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจอันใด เพื่อความเกิดขึ้นแห่ง
จักขุวิญญาณ ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจนั้นแหละ เพื่อความเกิดขึ้นแห่ง
โสตวิญญาณ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เพราะโสตวิญญาณเกิดขึ้นได้ ในลำดับแห่งจักขุ-
วิญญาณ ฉะนั้นจึงไม่พึงกล่าวว่า ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจอันใด เพื่อ
ความเกิดขึ้นแห่งจักขุวิญญาณ ความนึก ฯลฯ ความตั้งใจอันนั้นแหละ
เพื่อความเกิดขึ้นแห่งโสตวิญญาณ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. โสตวิญญาณเกิดขึ้นแก่ผู้ไม่นึกถึงอยู่ ฯลฯ ผู้ไม่ตั้งใจ
อยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. โสตวิญญาณ ย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้นึกถึงอยู่ ฯลฯ แก่ผู้
ตั้งใจอยู่ มิใช่ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่าโสตวิญญาณย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้นึกถึงอยู่ ฯลฯ
ผู้ตั้งใจอยู่ ก็ต้องไม่กล่าวว่า โสตวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่งจักขุวิญญาณ.
[1562] ส. โสตวิญญาณเกิดขึ้นได้ในลำดับแห่งจักขุวิญญาณ