เมนู

สฬายตนุปปัตติกถา



[1557] สกวาที อายตนะ 6 เกิดขึ้นในครรภ์มารดา ไม่ก่อน
ไม่หลังกัน หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบครัน มีอินทรีย์อัน
ไม่พร่อง หยั่งลงในครรภ์มารดา หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1558] ส. จักขายตนะเกิดขึ้นพร้อมกับจิตดวงแสวงหาอุบัติ
คือปฏิสนธิจิต หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. มือ เท้า ศีรษะ หู จมูก ปาก ฟัน ก็เกิดขึ้นพร้อมกับ
จิตดวงแสวงหาอุบัติ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. โสตายตนะ ฯลฯ ฆานายตนะ ฯลฯ ชิวหายตนะ เกิด
ขึ้นพร้อมกับจิตดวงแสวงหาอุบัติ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. มือ เท้า ศีรษะ หู จมูก ปาก ฟัน ก็ตั้งขึ้นพร้อมกับ
จิตดวงแสวงหาอุบัติ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1559] ป. จักขายตนะเกิดขึ้นแก่สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดาใน
ภายหลังหรือ ?
ส. ถูกแล้ว.

ป. สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดา กระทำกรรมเพื่อได้จักษุ
ในท้องมารดา หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. โสตายตนะ ฯลฯ ฆานายตนะ ฯลฯ ชิวหายตนะ เกิด
แก่สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดาในภายหลัง หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดานั้น กระทำกรรมเพื่อได้
ชิวหาในครรภ์มารดา หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. ผม ขน เล็บ ฟัน กระดูก เกิดแก่สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์
มารดาในภายหลัง หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดา กระทำกรรมเพื่อได้กระดูก
ในครรภ์มารดา หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1560] ส. ไม่พึงกล่าวว่า ผม ขน เล็บ ฟัน กระดูก เกิดแก่สัตว์
ผู้อยู่ในครรภ์มารดาในภายหลัง หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า สัตว์ผู้เกิดในครรภ์
เกิดเป็นกลละขึ้นก่อน จากกลละเกิด เป็นอัพพุทะ จากอัพพุทะ เกิดเป็น
เปสิ จากเปสิ เกิดเป็นฆนะ จากฆนะ เกิดเป็นปัญจสาขา ผม ขน และ
เล็บ ก็มารดาบริโภคสิ่งใด คือ ข้าว น้ำ และ โภชนะ และทารกผู้อยู่ใน

ครรภ์มารดานั้น เติบโตขึ้นในครรภ์มารดานั้น ด้วยอาหาร คือ ข้าว น้ำ
และโภชนะ ที่มารดาของตนบริโภค
ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าอย่างนั้น ผม ขน เล็บ ฟัน กระดูก ก็เกิดแก่สัตว์
ผู้อยู่ในครรภ์มารดา ในภายหลังน่ะสิ.
สฬายตนุปปัตติกถา จบ

อรรถกถาสฬายตนุปปัตติกถา



ว่าด้วย ความเกิดขึ้นแห่งสฬายตนะ



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องความเกิดขึ้นสฬายตนะ คืออายตนะภายใน
6. ในเรื่องนั้น อายตนะภายใน 6 ของโอปปาติกะกำเนิดทั้งหลายย่อม
เกิดขึ้นพร้อมกับปฏิสนธิจิตดวงที่แสวงหาการเกิดนั่นแหละ. ในบรรดา
อายตนะภายในทั้ง 6 สำหรับของคัพภเสยยกะทั้งหลาย มีมนายตนะกับ
กายายตนะเท่านั้นเกิดขึ้นพร้อมกับปฏิสนธิจิต ส่วนอายตนะ 4 ที่เหลือ
ย่อมเกิดขึ้นในราตรี 7 และ 7 หมายความว่าทุก ๆ หนึ่งสัปดาห์. ลัทธิ
ของสกวาทีว่า อายตนะเหล่านั้นแลถือกำเนิดใหม่ด้วยกรรมอันใดเพราะ
ความที่กรรมอันนั้นนั่นแหละ หรือว่ากรรมอันอื่นเป็นกรรมอันตนทำแล้ว
ดังนี้.
อนึ่ง ชนเหล่าใด มีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายปุพพเสลิยะ และ
อปรเสลิยะทั้งหลายว่า อายตนะภายใน 6 อันเป็นพืช ย่อมเกิดในท้อง
ของมารดาในขณะแห่งปฏิสนธินั่นแหละ เพราะความเกิดจากรรมอัน

1. สํ. ส. 15/803.