เมนู

อนันตราปยุตตกถา



[1518] ปรวาที บุคคลผู้ใช้ให้ทำอนันตริยกรรม พึงก้าวลงสู่
สัมมัตตนิยามได้ หรือ ?
สกวาที ถูกแล้ว.
ป. พึงก้าวลงสู่มิจฉัตตนิยาม และสัมมัตตนิยามได้ทั้ง
สองอย่าง หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. บุคคลผู้ใช้ให้ทำอนันตริยกรรม พึงก้าวลงสู่สัมมัตต-
นิยามได้ หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. กรรมนั้น ได้ใช้ให้ทำแล้ว ก่อความรำคาญใจให้แล้ว
ให้เกิดความวิปฏิสารขึ้นแล้ว มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว
ป. หากว่า กรรมนั้นได้ใช้ให้ทำแล้ว ก่อความรำคาญ
ใจให้แล้ว ให้เกิดความวิปฏิสารขึ้นแล้ว ก็ต้องไม่กล่าวว่า บุคคลผู้ใช้ให้
ทำอนันตริยกรรม พึงก้าวลงสู่สัมมัตตนิยามได้.
[1519] ส. บุคคลผู้ใช้ให้ทำอนันตริยกรรม เป็นผู้ไม่ควรเพื่อจะ
ก้าวลงสู่สัมมัตตนิยาม หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เขาได้ปลงชีวิตมารดา ได้ปลงชีวิตบิดา ได้ปลงชีวิต
พระอรหันต์ ได้มีจิตประทุษร้ายยังพระโลหิตแห่งพระตถาคตให้ห้อ ได้
ยังสงฆ์ให้แตกจากกัน หรือ ?

ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลผู้ใช้ให้ทำอนันตริยกรรม ล้มเลิกกรรมนั้นแล้ว
บรรเทาความรำคาญใจได้แล้ว กำจัดความวิปฏิสารได้แล้ว เป็นผู้ไม่ควร
เพื่อจะก้าวลงสู่สัมมัตตนิยาม หรือ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เขาได้ปลงชีวิตมารดา ได้ปลงชีวิตบิดา ฯลฯ ได้ยัง
สงฆ์ให้แตกจากกัน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลผู้ใช้ให้ทำอนันตริยกาาร ล้มเลิกกรรมนั้นแล้ว
บรรเทาความรำคาญใจได้แล้ว กำจัดความวิปฏิสารได้แล้ว เป็นผู้ไม่ควร
เพื่อจะก้าวลงสู่สัมมัตตนิยาม หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กรรมนั้นได้ล้มเลิกแล้ว ความรำคาญใจก็ได้บรรเทา
แล้ว ความวิปฏิสารก็ได้กำจัดแล้ว มิใช่หรือ ?
ป.ถูกแล้ว.
ส. หากว่า กรรมนั้นได้ล้มเลิกแล้ว ความรำคาญใจก็
ได้บรรเทาแล้ว ความวิปฏิสารก็ได้กำจัดแล้ว ก็ต้องไม่กล่าวว่าบุคคลผู้
ใช้ให้ทำอนันตริยกรรม ล้มเลิกกรรมนั้นแล้ว บรรเทาความรำคาญใจ
ได้แล้ว กำจัดความวิปฏิสารได้แล้ว เป็นผู้ไม่ควรเพื่อจะก้าวลงสู่สัมมัตตนิยาม
[1520] ป. บุคคลผู้ใช้ให้ทำอนันตริยกรรม พึงก้าวลงสู่สัมมัตต-
นิยาม หรือ ?
ส.ถูกแล้ว.

ป. เขาได้ใช้ให้ทำกรรมนั้นแล้ว มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า เขาได้ใช้ให้ทำกรรมนั้นแล้ว ก็ต้องไม่กล่าว
ว่า บุคคลผู้ใช้ให้ทำอนันตริยกรรม พึงก้าวลงสู่สัมมัตตนิยามได้.
อนันตราปยุตตกถา จบ

อรรถกถาอนันตราปยุตตกถา



ว่าด้วย บุคคลผู้ใช้ให้ทำอนันตริยกรรม



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องบุคคลผู้ใช้ให้ทำอนันตริยกรรม คือผู้สั่งให้ทำ
อนันตริยกรรม. ในเรื่องนั้น บุคคลใดสั่งให้ทำอนันตริยกรรมมีการฆ่า
มารดาเป็นต้นอันให้ผลโดยไม่มีภพอื่นคั่นในระหว่างโดยประเภทแห่งขันธ์
บุคคลนั้นชื่อว่าผู้ใช้ให้ทำอนันตริยกรรม ในเรื่องนี้ สกวาทีทำการสันนิษฐาน
คือลงความเห็นในลัทธิของตนว่า บุคคลใดจักกระทำกรรมนั้นที่เขาสั่ง
ด้วยคำสั่งที่แน่นอน บุคคลนั้นย่อมเป็นผู้เที่ยงในทางที่ผิด เขาย่อมเป็นผู้
ไม่ควรเพื่อก้าวลงสู่สัมมัตตนิยาม เพราะความที่เจตนาที่ยังประโยชน์ให้
สำเร็จเกิดขึ้นแล้ว แต่ว่าบุคคลใดจักกระทำซึ่งกรรมที่เขาสั่งนั้นด้วย
คำสั่งที่ไม่แน่นอน บุคคลนั้นไม่ชื่อว่าเป็นผู้เที่ยงในทางที่ผิด เขาย่อมเป็น
ผู้ควรเพื่อก้าวลงสู่สัมมัตตนิยามเพราะความที่เจตนาอันให้สำเร็จประโยชน์
นั้นยังไม่เกิดขึ้น ดังนี้.
ชนเหล่าใด มีความเห็นผิด ดุจลัทธินิกายอุตตราปถกะทั้งหลายว่า
บุคคลชื่อว่าเป็นผู้ไม่ควรเพื่อก้าวลงสู่สัมมัตตนิยามทั้งนั้น แม้คำสั่ง
แน่นอนก็ตาม ไม่แน่นอนก็ตาม ดังนี้ เพื่อทำลายลัทธิแห่งชนเหล่านั้น