เมนู

สฬายตนกถา



[1489] สกวาที จักขายตนะเป็นวิบาก หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. จักขายตนะเป็นผลอันบุคคลเสวยเป็นสุข เป็นผลอัน
บุคคลเสวยเป็นทุกข์ ฯลฯ มีอารมณ์ มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. จักขายตนะ ไม่เป็นผลที่บุคคลเสวยเป็นสุข ฯลฯ ไม่
มีอารมณ์ ไม่มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า จักขายตนะไม่เป็นผลอันบุคคลเสวยเป็นสุข
ฯลฯ ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ ก็ต้องไม่กล่าวว่า
จักขายตนะเป็นวิบาก ฯลฯ
ส. ผัสสะเป็นวิบาก ผัสสะเป็นผลอันบุคคลเสวยเป็นสุข
ฯลฯ มีอารมณ์ มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. จักขายตนะ เป็นวิบาก จักขายตนะเป็นผลที่บุคคล
เสวยเป็นสุข ฯลฯ มีอารมณ์ มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. จักขายตนะเป็นวิบาก แต่จักขายตนะไม่เป็นผลที่
บุคคลเสวยเป็นสุข ฯลฯ ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ผัสสะเป็นวิบาก แต่ผัสสะไม่เป็นผลที่บุคคลเสวย

เป็นสุข ฯลฯ ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ โสตายตนะ ฯลฯ ฆานายตนะ
ฯลฯ ชิวหายตนะ ฯลฯ
[1490] ส. กายายตนะเป็นวิบาก หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กายายตนะ เป็นผลที่บุคคลเสวยเป็นสุข ฯลฯ มี
อารมณ์ มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กายายตนะ ไม่เป็นผลที่บุคคลเสวยเป็นสุข ฯลฯ ไม่มี
อารมณ์ ไม่มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า กายายตนะไม่เป็นผลที่บุคคลเสวยเป็นสุข
ฯลฯ ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ ก็ต้องไม่กล่าวว่า
กายายตนะเป็นวิบาก ฯลฯ
ส. ผัสสะ เป็นวิบาก ผัสสะเป็นผลที่บุคคลเสวยเป็นสุข
ฯลฯ มีอารมณ์ มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กายายตนะ เป็นวิบาก กายายตนะ เป็นผลที่บุคคล
เสวยเป็นสุข ฯลฯ มีอารมณ์ มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กายายตนะเป็นวิบาก แต่กายายตนะไม่เป็นผลที่
บุคคลเสวยเป็นสุข ฯลฯ ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?

ป. ถูกแล้ว.
ส. ผัสสะเป็นวิบาก แต่ผัสสะไม่เป็นผลที่บุคคลเสวย
เป็นสุข ฯลฯ ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1491] ป. ไม่พึงกล่าวว่า สฬายตนะเป็นวิบาก หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. สฬายตนะเกิดขึ้นเพราะได้ทำกรรมไว้ มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า สฬายตนะเกิดขึ้นเพราะได้ทำกรรมไว้ ด้วย
เหตุนั้นนะ ท่านจึงต้องกล่าวว่า สฬายตนะเป็นวิบาก
สฬายตนะกถา จบ

อรรถกถาสฬายตนกถา



ว่าด้วย สฬายตนะ



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องสฬายตนะ คืออายตนะภายใน 6. ในเรื่องนั้น
ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายมหาสังฆิกะทั้งหลายว่า สฬายตนะ
เกิดขึ้นเพราะทำกรรมไว้ เหตุใด เพราะเหตุนั้น สฬายตนะจึงเป็นวิบาก
ดังนี้ คำถามของสกวาทีว่า จักขวายตนะเป็นวิบากหรือ เป็นต้น หมายถึง
ชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำที่เหลือมีนัยดังที่กล่าวแล้ว
ในหนหลังนั่นแหละ.