เมนู

สัทโทวิปาโกติกถา



[1485] สกวาที เสียงเป็นวิบาก หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เสียงเป็นผลที่บุคคลเสวยเป็นสุข เป็นผลที่บุคคลเสวย
เป็นทุกข์ เป็นผลที่บุคคลเสวยไม่ทุกข์ไม่สุข สัมปยุตด้วยสุขเวทนา
สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา สัมปยุตด้วยอทุกขมุขเวทนา สัมปยุตด้วยผัสสะ
สัมปยุตด้วยเวทนา สัมปยุตด้วยสัญญา สัมปยุตด้วยเจตนา สัมปยุตด้วย
จิต มีอารมณ์ มีความนึก ความผูกใจ ความสนใจ ความทำไว้ในใจ
ความจงใจ ความปรารถนา ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เสียง ไม่เป็นผลที่บุคคลเสวยเป็นสุข ไม่เป็นผลที่
บุคคลเสวยเป็นทุกข์ ฯลฯ ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ
มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า เสียงไม่เป็นผลที่บุคคลเสวยเป็นสุข ฯลฯ
ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ ก็ต้องไม่กล่าวว่า เสียงเป็น
วิบาก
[1486] ส. ผัสสะเป็นวิบาก ผัสสะเป็นผลที่บุคคลเสวยเป็นสุข
ฯลฯ มีอารมณ์ มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เสียงเป็นวิบาก เสียงเป็นผลที่บุคคลเสวยเป็นสุข ฯลฯ
มีอารมณ์ มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?

ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1487] ส. เสียงเป็นวิบาก. แต่เสียงไม่เป็นผลที่บุคคลเสวยเป็น
สุข ฯลฯ ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความนึก ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ผัสสะเป็นวิบาก แต่ผัสสะไม่เป็นผลที่บุคคลเสวย
เป็นสุข ไม่เป็นผลที่บุคคลเสวยเป็นทุกข์ ฯลฯ ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความนึก
ฯลฯ ความตั้งใจ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1488] ป. ไม่พึงกล่าวว่า เสียงเป็นวิบาก หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ตถาคตนั้น เป็นผู้
มีเสียงดุจเสียงพรหม กล่าวคำด้วยน้ำเสียงอันไพเราะดุจเสียงนกการะเวก
เพราะกรรมนั้นอันได้ทำไว้แล้ว ได้สะสมแล้ว ได้เพิ่มพูนแล้ว เป็นกรรม
ไพบูลย์
ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. ถ้าอย่างนั้น เสียงก็เป็นวิบาก น่ะสิ.
สัทโทวิปาโกติกถา จบ

1. ที. ปา. 11/166.

อรรถกถาสัทโท วิปาโกติกถา



ว่าด้วย เสียงเป็นวิบาก

1

ชื่อว่า เรื่องเสียงเป็นวิบาก. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิด
ดุจลัทธิของนิกายมหาสังฆิกะทั้งหลายว่า เสียงเป็นวิบาก เพราะไม่
พิจารณาความถือเอาคำที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า พระตถาคตนั้น
เป็นผู้มีเสียงดุจเสียงแห่งพรหม... เพราะทำกรรม อันได้ทำแล้ว ได้
สะสมไว้แล้ว ได้เพิ่มพูนแล้ว เป็นกรรมไพบูลย์
ดังนี้ คำถามของสกวาที
กล่าวเพื่อแสดงแก่ชนเหล่านั้นว่า อรูปธรรมทั้งหลาย คือนามขันธ์ 4 มี
กรรมเป็นสมุฏฐาน ย่อมได้ชื่อว่า วิบาก แต่โวหารนี้ไม่มีในรูปธรรม
ทั้งหลาย. คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำว่า เสียงเป็นผลที่บุคคล
เสวยเป็นสุข
เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อแสดงว่าขึ้นชื่อว่าวิบากแล้วย่อม
เป็นอย่างนี้.
พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า พระตถาคตนั้นเป็นผู้
มีเสียงดุจเสียงแห่งพรหมเพราะกรรมนั้นได้ทำไว้แล้ว
เป็นต้น ที่ปรวาที
นำมากล่าวนั้นก็เพื่อจะแสดงให้ทราบถึงการได้ลักษณะ คือภาวะที่ดี
อันที่จริง พระมหาบุรุษแม้เป็นผู้มีบริวารที่ดีก็เพราะทำกรรมไว้ใน
กาลก่อน และทั้งบริวารนั้นก็ไม่ใช่วิบาก เพราะฉะนั้นพระสูตรนี้ จึงมิใช่
ข้อพิสูจน์ว่าเสียงเป็นวิบาก ดังนี้แล.
อรรถกถาสัทโทวิปาโกติกถา จบ

1. คำว่าวิปากะ ได้แก่วิปากจิต 36 เจตสิก 38 วิบากนี้เรียกว่าผลด้วย แต่คำว่าผลมี 2 คือ มุขยผล และ
สามัญญผล สำหรับสามัญญผล ได้แก่ กัมมชรูป คือรูปที่เกิดแต่กรรมเป็นสมุฏฐาน ไม่จัดเป็นวิบาก.