เมนู

ส. ถูกแล้ว.
ป. ถ้าอย่างนั้น ศีลที่มีการสมาทานเป็นเหตุ ก็เจริญได้
น่ะสิ
สมาทานเหตุกกถา จบ

อรรถกถาสมาทานเหตุกกถา


ว่าด้วย ศีลมีการสมาทานเป็นเหตุ


บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องศีลมีการสมาทานเป็นเหตุ. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใด
มีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายมหาสังฆิกะทั้งหลายนั่นแหละว่า ศีลมี
การสมาทานเป็นเหตุย่อมเจริญ เพราะอาศัยพระบาลีว่า บุญย่อมเจริญ
ทุกเมื่อ
เพราะถือเอาอรรถโดยไม่พิจารณาในเรื่องการสร้างอาราม ดังนี้
คำถามของสกวาที หมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที
หมายเอาการสั่งสมศีลที่ไม่ประกอบด้วยจิต. คำที่เหลือเช่นกับเรื่องก่อน
นั่นแหละ ดังนี้แล.
อรรถกถา สมาทานเหตุกกถา จบ

วิญญัตติสีลันติกถา



[1428] สกวาที วิญญัตติเป็นศีล หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เป็นเจตนาเครื่องเว้นจากปาณาติบาต หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เป็นเจตนาเครื่องเว้นจากอทินนาทาน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เป็นเจตนาเครื่องเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เป็นเจตนาเครื่องเว้นจากมุสาวาท หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เป็นเจตนาเครื่องเว้นจากสุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. การกราบไหว้เป็นศีล การลุกรับเป็นศีล การทำ
อัญชลีเป็นศีล สามีจิกรรมเป็นศีล การให้อาสนะเป็นศีล การให้ที่นอน
เป็นศีล การให้น้ำล้างเท้าเป็นศีล การให้รองเท้าเป็นศีล การนวดหลังใน
เวลาอาบน้ำเป็นศีล หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นเจตนาเครื่องเว้นจากปาณาติบาต หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เป็นเจตนาเครื่องเว้นจากสุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน
หรือ ?