เมนู

อรรถกถานิโรธสมาปัตติกถา


ว่าด้วย นิโรธสมาบัติ


บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องนิโรธสมาบัติ. ในเรื่องนั้น ความไม่เป็นไปแห่ง
นามขันธ์ 4 ชื่อว่านิโรธสมาบัติ. ก็นิโรธสมาบัตินั้นอันบุคคลเมื่อจะทำ
ชื่อว่าย่อมทำได้ คือ เมื่อเข้านิโรธสมาบัติ เขาย่อมเข้าได้ เหตุใด เพราะ
เหตุนั้น ท่านจึงเรียกนามขันธ์ 4 นั้นว่า เป็นสมาบัติที่ดับไปแล้ว. แต่ใคร ๆ
ไม่พึงกล่าวว่าเป็นสังขตธรรม หรือเป็นอสังขตธรรม เพราะไม่มีลักษณะ
แห่งสังขตธรรมและอสังขตธรรม.
ในปัญหานั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายอันธกะ
และอุตตราปถกะทั้งหลายว่า นิโรธสมาบัติไม่เป็นสังขตะ เพราะเป็น
อสังขตะ ดังนี้ คำถามของสกวาทีว่า นิโรธสมาบัติ เป็นต้น โดยหมายถึง
ชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำเป็นต้นว่า ยังนิโรธให้
เกิดขึ้น
สกวาทีกล่าวแล้วด้วยสามารถแห่งการได้เฉพาะซึ่งการเข้าสมาบัติ
เท่านั้น. อธิบายว่า เหมือนอย่างว่าชนทั้งหลายย่อมยังสังขตธรรมทั้งหลาย
มีรูปเป็นต้นให้เกิดขึ้นได้โดยวิธีใด แต่ใคร ๆ ชื่อว่ายังอสังขตะให้เกิดขึ้น
ได้โดยวิธีนั้นหาได้ไม่. คำว่า ความผ่องแผ้ว ความออกจากนิโรธ บัณฑิต
พึงทราบว่าเป็นผลสมาบัติ. แต่ความผ่องแผ้ว ความออกจากอสังขตะนั้น
ไม่ปรากฏเลย เพราะฉะนั้น ปรวาทีจึงตอบปฏิเสธ.
คำว่า ถ้าอย่างนั้น ความว่า ลัทธิว่า นิโรธสมาบัติ เมื่อไม่เป็น
สังขตะก็ต้องเป็นอสังขตะ ดังนี้ แต่คำนี้ไม่เป็นเหตุในความเป็นอสังขตะ
เพราะฉะนั้น แม้ปรวาทีกล่าวแล้ว คำนั้นก็หาเป็นเช่นกับคำที่กล่าวนั้นไม่
ดังนี้แล.
อรรถกถานิโรธสมาปัตติกถา จบ

อากาสกถา



[1104] สกาวาที อากาศเป็นอสังขตะหรือ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เป็นนิพพาน เป็นที่ต้านทาน เป็นที่เร้น เป็นที่พึ่ง เป็น
ที่หมาย เป็นฐานะอันไม่เคลื่อน เป็นอมตะ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1105] ส. อากาศเป็นสังขตะ นิพพานเป็นอสังขตะ หรือ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อสังขตะ เป็น 2 อย่าง หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อสังขตะ เป็น 2 อย่าง หรือ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ที่ต้านทาน เป็น 2 อย่าง ฯลฯ มีระหว่างขั้นแห่ง
นิพพาน 2 อย่างนั้น หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1106] ส. อากาศเป็นอสังขตะ หรือ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. มีชนบางพวกทำอนากาศให้เป็นอากาศได้ หรือ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. มีชนบางพวกทำสังขตะให้เป็นอสังขตะได้ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ