เมนู

อตีตานาคตปัจจุปปันนกถา



[1368] สกวาที บุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยอีก หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. อดีตดับไปแล้ว ปราศไปแล้ว แปรไปแล้ว อัสดงคต
แล้ว สาบสูญไปแล้ว มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า อดีตดับไปแล้วปราศไปแล้ว แปรไปแล้ว
อัสดงคตแล้ว สาบสูญไปแล้ว ก็ต้องไม่กล่าวว่า บุคคลเป็นผู้ประกอบ
ด้วยอดีต.
[1369] ส. บุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยอนาคต หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อนาคตยังไม่เกิด ยังไม่เป็น ยังไม่เกิดพร้อม ยังไม่
บังเกิด ยังไม่บังเกิดขึ้น ยังไม่ปรากฏ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า อนาคต ยังไม่เกิด ยังไม่เป็น ยังไม่เกิดพร้อม
ยังไม่บังเกิด ยังไม่บังเกิดขึ้น ยังไม่ปรากฏ ก็ต้องไม่กล่าวว่า บุคคลเป็น
ผู้ประกอบด้วยอนาคต.
[1370] ส. บุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยรูปขันธ์ที่เป็นอดีต เป็น
ผู้ประกอบด้วยรูปขันธ์ที่เป็นอนาคต เป็นผู้ประกอบด้วยรูปขันธ์ที่เป็น
ปัจจุบัน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นผู้ประกอบด้วยรูปขันธ์ 3 หรือ ?

ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยขันธ์ 5 ที่เป็นอดีต เป็นผู้
ประกอบด้วยขันธ์ 5 ที่เป็นอนาคต เป็นผู้ประกอบด้วยขันธ์ 5 ที่เป็น
ปัจจุบัน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นผู้ประกอบด้วยขันธ์ 15 หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1371] ส. บุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยจักขายตนะที่เป็นอดีต เป็น
ผู้ประกอบด้วยจักขายตนะที่เป็นอนาคต เป็นผู้ประกอบด้วยจักขายตนะ
ที่เป็นปัจจุบัน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นผู้ประกอบด้วยจักขายตนะ 3 หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยอายตนะ 12 ที่เป็นอดีต
เป็นผู้ประกอบด้วยอายตนะ 12 ที่เป็นอนาคต เป็นผู้ประกอบด้วยอายตนะ
12 ที่เป็นปัจจุบัน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นผู้ประกอบด้วยอายตนะ 36 หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1327] ส. บุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยจักขุธาตุที่เป็นอดีต เป็น
ผู้ประกอบด้วยจักขุธาตุที่เป็นอนาคต เป็นผู้ประกอบด้วยจักขุธาตุที่เป็น
ปัจจุบัน หรือ ?

ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นผู้ประกอบด้วยจักขุธาตุ 3 หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยธาตุ 18 ที่เป็นอดีต เป็น
ผู้ประกอบด้วยธาตุ 18 ที่เป็นอนาคต เป็นผู้ประกอบด้วยธาตุ 18 ที่เป็น
ปัจจุบัน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นผู้ประกอบด้วยธาตุ 54 หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1373] ส. บุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยจักขุนทรีย์ที่เป็นอดีต เป็น
ผู้ประกอบด้วยจักขุนทรีย์ที่เป็นอนาคต เป็นผู้ประกอบด้วยจักขุนทรีย์ที่
เป็นปัจจุบัน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นผู้ประกอบด้วยจักขุนทรีย์ 3 หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยอินทรีย์ 22 ที่เป็นอดีต
เป็นผู้ประกอบด้วยอินทรีย์ 22 ที่เป็นอนาคต เป็นผู้ประกอบด้วยอินทรีย์
22 ที่เป็นปัจจุบัน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นผู้ประกอบด้วยอินทรีย์ 66 หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1374] ป. ไม่พึงกล่าวว่า บุคคลประกอบด้วยอดีตและอนาคต

หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. บุคคลผู้มีปกติเพ่งวิโมกข์ 8 คือสมาบัติ 8 ผู้ได้ตาม
ปรารถนาซึ่งฌาน 4 ผู้มีปกติได้อนุปุพพวิหารสมาบัติ 9 มีอยู่ มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า บุคคลผู้มีปกติเพ่งวิโมกข์ 8 ผู้ได้ตามปรารถนา
ซึ่งฌาน 4 ผู้มีปกติได้อนุปุพพวิหารสมาบัติ 9 มีอยู่ ด้วยเหตุนั้นนะ จึง
ต้องกล่าวว่า บุคคลผู้ประกอบด้วยอดีตและอนาคต.
อตีตานาคตปัจจุปปันนกถา จบ

อรรถกถาอตตีตานาคเตหิ สมันนาคตกถา

1

ว่าด้วย บุคคลผู้ประกอบด้วยอดีตและอนาคต



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องบุคคลผู้ประกอบด้วยอดีตและอนาคต. ในเรื่องนั้น
บัณฑิตพึงทราบบัญญัติ 2 อย่าง คือ สมันนาคตบัญญัติ ได้แก่ บัญญัติคำว่า
ประกอบ และปฏิลาภบัญญัติ ได้แก่ บัญญัติคำว่า การได้เฉพาะ ในบัญญัติ
2 อย่างนั้น ผู้ถึงพร้อมด้วยปัจจุบันธรรม ท่านเรียกว่า สมันนาคตะ ส่วน
สมาบัติทั้งหลายของผู้ได้ฌาน 8 ไม่เป็นไปในขณะเดียวกัน คือส่วนหนึ่ง
เป็นอดีต ส่วนหนึ่งเป็นอนาคต ส่วนหนึ่งเป็นปัจจุบัน แม้ก็จริง ถึงอย่างนั้น
ท่านก็เรียก ปฏิลาภะ ผู้มีปกติได้ เพราะความเป็นผู้แทงตลอดแล้ว เป็น
สภาพไม่เสื่อมไป.

1. ในอภิธรรมใช้อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนกถา.