เมนู

นยถาจิตตัสสกายกัมมันติกถา



[2363] สกวาที บุคคลผู้ไม่มีความคิดอย่างไร ก็มีกายกรรมได้
หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ไม่มีผัสสะ ฯลฯ ผู้ไม่มีจิต ก็มีกายกรรมได้
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลมีผัสสะ ฯลฯ มีจิต จึงมีกายกรรมได้ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า บุคคลมีผัสสะ ฯลฯ มีจิต จึงมีกายกรรมได้
ก็ต้องไม่กล่าวว่า บุคคลผู้ไม่มีความคิดอย่างไร ก็มีกายกรรมได้.
[1364] ส. บุคคลผู้ไม่มีความคิดอย่างไร ก็มีกายกรรมได้ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ไม่นึกอยู่ ฯลฯ ไม่ตั้งใจอยู่ ก็มีกายกรรมได้
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลผู้นึกอยู่ ฯลฯ ตั้งใจอยู่ จึงมีกายกรรมได้ มิใช่
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า บุคคลผู้นึกอยู่ ฯลฯ ตั้งใจอยู่ จึงมีกายกรรมได้
ก็ต้องไม่กล่าวว่า บุคคลผู้ไม่มีความคิดอย่างไร ก็มีกายกรรมได้.
[1365] ส. บุคคลผู้ไม่มีความคิดอย่างไร ก็มีกายกรรมได้ หรือ ?

ป. ถูกแล้ว.
ส. กายกรรมมีจิตเป็นสมุฏฐาน เกิดร่วมกับจิต เกิดใน
ขณะเดียวกับจิต มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า กายกรรมมีจิตเป็นสมุฏฐาน เกิดร่วมกับจิต
เกิดในขณะเดียวกับจิต ก็ต้องไม่กล่าวว่า บุคคลผู้ไม่มีความคิดอย่างไร
ก็มีกายกรรมได้.
[1366] ส. บุคคลไม่มีความคิดอย่างไร ก็มีกายกรรมได้ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลไม่ปรารถนาจะก้าวไปข้างหน้า ก็ก้าวไป
ข้างหน้าได้ ไม่ปรารถนาจะถอยไปข้างหลัง ก็ถอยไปข้างหลังได้ ไม่
ปรารถนาจะแลดูก็แลดูได้ ไม่ปรารถนาจะเหลียวดูก็เหลียวดูได้ ไม่
ปรารถนาจะคู้แขนก็คู้แขนได้ ไม่ปรารถนาจะเหยียดแขนก็เหยียดแขน
ได้ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลปรารถนาจะก้าวไปข้างหน้า จึงก้าวไปข้างหน้า
ได้ ปรารถนาจะถอยหลัง จึงถอยไปข้างหลังได้ ปรารถนาจะแลดู จึง
แลดูได้ ปรารถนาจะเหลียวดู จึงเหลียวดูได้ ปรารถนาจะคู้แขน จึงคู้แขน
ได้ ปรารถนาจะเหยียดแขน จึงเหยียดแขนได้ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า บุคคลปรารถนาจะก้าวไปข้างหน้า จึงก้าว
ไปข้างหน้าได้ ฯลฯ ปรารถนาจะเหยียดแขน จึงเหยียดแขนได้ ก็ต้อง

ไม่กล่าวว่า บุคคลผู้ไม่มีความคิดอย่างไร ก็มีกายกรรมได้.
[1367] ป. ไม่พึงกล่าวว่า บุคคลผู้ไม่มีความคิดอย่างไร ก็มี
กายกรรมได้ หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. บางคนที่คิดว่าจะไปในที่แห่งหนึ่ง ก็ไปเสียในที่อีก
แห่งหนึ่ง ฯลฯ คิดว่าจะเหยียดแขนข้างหนึ่ง ก็เหยียดอีกเสียข้างหนึ่ง มีอยู่
มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า บางคนที่คิดว่าจะไปในที่แห่งหนึ่ง ก็ไปเสีย
ในที่อีกแห่งหนึ่ง ฯลฯ คิดว่าจะเหยียดแขนข้างหนึ่ง ก็เหยียดเสียอีกข้างหนึ่ง
มีอยู่ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงกล่าวว่า บุคคลผู้ไม่มีความคิดอย่างไร ก็มี
กายกรรมได้.
นยถาจิตตัสสกายกัมมันติกถา จบ

อรรถกถานยถาจิตตัสส กายกัมมันติกถา



ว่าด้วย ผู้ไม่มีความคิดอย่างไรก็มีกายกรรมได้



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องผู้ไม่มีความคิดอย่างไรก็มีกายกรรมได้ คือหมาย
ความว่า กายกรรมไม่เป็นไปตามจิต. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใด มีความเห็น
ผิดดุจลัทธิของนิกายปุพพเสลิยะทั้งหลายว่า คนบางคนที่คิดว่า จักไป
ในที่แห่งหนึ่ง แต่ก็ไปในที่แห่งหนึ่ง เหตุใด เพราะเหตุนั้น กายกรรมจึง
ไม่เป็นไปตามจิต ไม่อนุรูปแก่จิต ไม่คล้อยตามจิต แม้เว้นจิตเสียก็เป็น
ไปได้ ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็น
ของปรวาที. คำที่เหลือในที่นี้ พึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในหนหลัง
นั่นแล.
อรรถกถานยถาจิตตัสสกายกัมมันติกถา จบ