เมนู

อรรถกถารูปังสารัมมณันติกถา



ว่าด้วย รูปเป็นธรรมมีอารมณ์



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่อง รูปเป็นธรรมมีอารมณ์. ในเรื่องนั้น ว่าโดย
อำนาจอารัมมณปัจจัยว่า รูป ชื่อว่ามีอารมณ์ เพราะอรรถว่ามีปัจจัย
แต่รูปนั้นกระทำธรรมอื่นให้เป็นอารมณ์ไม่ได้ คือหมายความว่ารู้อารมณ์
ไม่ได้. ก็ลัทธิแห่งชนเหล่าใด ดุจลัทธิของนิกายอุตตราปถกะทั้งหลายว่า
รูปมีอารมณ์ได้โดยไม่แปลกกัน ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชน
เหล่านั้น เพื่อแสดงวิภาคอารมณ์ 2 อย่าง คือ โอลุพฺภารมฺมณํ ได้แก่
อารมณ์ที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว และ ปจฺจยารมฺมณํ ได้แก่ อารมณ์คือเป็น
ปัจจัย คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำที่เหลือในที่นี้ บัณฑิตพึงทราบ
โดยทำนองแห่งพระบาลีนั่นแหละ.
ในปัญหาว่า ไม่พึงกล่าว เป็นต้น คำตอบรับรองเป็นของสกวาที
หมายเอาโอลุพภารมณ์ คือ อารมณ์ที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว. แม้ในปัญหา
ที่ 2 สกวาทีนั้นนั่นแหละตอบรับรองหมายเอาอารมณ์คือเป็นปัจจัย
เพราะฉะนั้น ในที่นี้ ความที่รูปนั้นเป็นธรรมชาติมีอารมณ์สำเร็จแล้ว
เพราะอรรถว่ามีปัจจัยเท่านั้น มิใช่มีอารมณ์อันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ด้วย
ประการฉะนี้แล.
อรรถกถารูปังสารัมมณันติกถา จบ

อนุสยา อนารัมมณาติกถา



[1327] สกวาที อนุสัยเป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ ?
ปรวาวี ถูกแล้ว.
ส. เป็นรูป เป็นนิพพาน เป็นจักขายตนะ ฯลฯ เป็น
โผฏฐัพพายตนะ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1328] ส. กามราคานุสัย เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กามราคะ กามราคปริยุฏฐาน กามราคสัญโญชน์
กาโมฆะ กามโยคะ กามฉันทนิวรณ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส กามราคะ กามราคปริยุฏฐาน กามราคสัญโญชน์
กาโมฆะ กามโยคะ กามฉันทนิวรณ์ เป็นธรรมมีอารมณ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กามราคานุสัย เป็นธรรมมีอารมณ์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1329] ส. กามราคานุสัย เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. นับเนื่องในขันธ์ไหน ?
ป. นับเนื่องในสังขารขันธ์.
ส. สังขารขันธ์ เป็นธรรมไม่มีอารมณ์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ