เมนู

ส. รูปธรรมเป็นไปธาตุ รูปมีอยู่ในกามธาตุ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กามธาตุวันนั้น รูปธาตุก็อันนั้นแหละ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กามธาตุอันนั้น รูปธาตุก็อันนั้นแหละ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลประกอบด้วยกามภพ เป็นผู้ประกอบด้วยภพ
สอง คือ กามภพ และรูปภพ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
รูปธาตุกถา จบ

อรรถกถารูปธาตุกถา



ว่าด้วย รูปธาตุ



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องรูปธาตุ. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิด
ดุจลัทธิของนิกายอันธกะทั้งหลายว่า รูปธรรมเท่านั้น ชื่อว่า รูปธาตุ
ดังนี้ คำถามของสกวาทีว่า รูป ดังนี้ โดยหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบ
รับรองเป็นของปรวาที. ทีนั้น สกวาทีเพื่อจะโต้แย้งด้วยอรรถว่า รูปภพ
ก็ชื่อว่า รูปธาตุ มิใช่เพียงสักแต่รูปอย่างเดียวเท่านั้น ด้วยอรรถนั้น จึง
กล่าวว่า รูปธาตุ เป็นต้น. คำทั้งหมดนั้น บัณฑิตพึงทราบเนื้อความ
โดยนัยที่ข้าพเจ้ากล่าวแล้วในเรื่องกามคุณนั่นแหละ.

ถูกสกวาทีถามว่า กามธาตุอันนั้น รูปธาตุก็อันนั้นแหละหรือ
ปรวาทีเมื่อเห็นผิดจากการกำหนดภูมิ จึงตอบปฏิเสธ. ถูกถามซ้ำอีก
ก็ตอบรับรองด้วยสามารถแห่งลัทธิของตน ก็เมื่อความเป็นเช่นนั้น
มีอยู่ รูปนั้นก็ย่อมปรากฏเพราะการประชุมกันด้วยภพทั้ง 2 คือ กามภพ
รูปภพ ด้วยเหตุนั้น สกวาที จึงกล่าวกะปรวาทีนั้นว่า บุคคลประกอบ
ด้วยกามภพ
เป็นต้น ปรวาทีตอบปฏิเสธ เพราะความไม่มีรูปเพียงรูป
เดียวทั้ง 2 ภพ ดังนี้แล.
อรรถกถารูปธาตุกถา จบ

อรูปธาตุกถา



[1219] สกวาที อรูปธรรม เป็นอูปธาตุ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เวทนา เป็นภพ เป็นคติ เป็นสัตตาวาส เป็นสงสาร
เป็นกำเนิด เป็นวิญญาณฐิติ เป็นการได้อัตภาพ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงเวทนามีอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัตว์ผู้เข้าถึงเวทนามีอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัตว์ทั้งหลาย เกิดอยู่ แก่อยู่ ตายอยู่ จุติอยู่ อุบัติอยู่
ในเวทนา หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอยู่ในเวทนา หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เวทนาเป็นจตุโวการภพ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1220] ส. อรูปธาตุ เป็นภพ เป็นคติ ฯลฯ เป็นการได้อัตภาพ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เวทนา เป็นภพ เป็นคติ ฯลฯ เป็นการได้อัตภาพ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ