เมนู

อรรถกถากามคุณกถา



ว่าด้วย กามคุณ



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องกามคุณ. ในเรื่องนั้น ในลัทธิของสกวาทีก่อน
วัตถุกามก็ดี กิเลสกามก็ดี กามภพก็ดี ท่านเรียกว่า กามธาตุ. จริงอยู่
่ในบรรดากามเหล่านั้น วัตถุกามชื่อว่ากามเพราะอรรถว่าเป็นสิ่งที่น่า
ปรารถนา ชื่อว่าธาตุเพราะอรรถว่าเป็นสภาวะ เป็นนิสสัตตะ และเป็น
สุญญตะ ฉะนั้น จึงชื่อว่า กามธาตุ กิเลสกามชื่อว่ากามเพราะอรรถว่า
เป็นสิ่งที่น่าปรารถนาด้วยเพราะอรรถว่าเป็นการชอบใจด้วย ชื่อว่าธาตุ
เพราะอรรถตามที่กล่าวแล้วนั่นแหละ ฉะนั้นจึงชื่อว่า กามธาตุ กามภพ
ชื่อว่ากามเพราะเหตุ 3 คือ เพราะอรรถว่าเป็นสิ่งที่น่าใคร่ 1 เพราะ
อรรถว่าเป็นเครื่องก้าวไป 1 เพราะอรรถว่าเป็นสถานที่เป็นไปแห่ง
วัตถุกาม 1 ชื่อว่าธาตุเพราะอรรถตามที่กล่าวแล้วนั่นแหละ ฉะนั้นจึง
ชื่อว่า กามธาตุ. ก็ในลัทธิของผู้อื่นถือเอากามคุณ 5 เท่านั้นเป็นกามธาตุ
เพราะอาศัยสักแต่บาลีว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กามคุณนี้ 5 อย่าง
ดังนี้. เพราะฉะนั้น ชนเหล่าใด มีความเห็นผิดนี้ดุจลัทธิของนิกายปุพพเสลิยะ
ทั้งหลาย สกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น จึงถามว่า กามคุณ 5 เท่านั้น เป็นต้น
เพื่อท้วงซึ่งความที่กามคุณนั้นเป็นสภาพที่แตกต่างไปจากกามธาตุ คำ
ตอบรับรองเป็นของปรวาทีด้วยสามารถแห่งลัทธิ. คำว่า มีอยู่มิใช่หรือ
เป็นต้น สกวาทีกล่าวแล้วเพื่อแสดงถึงกิเลสกาม.
ในคำเหล่านั้น คำว่า ความพอใจเกี่ยวด้วยกามคุณนั้น ได้แก่
เกี่ยวพร้อมเฉพาะแล้วด้วยกามคุณ คือมีกามคุณเป็นอารมณ์. ในคำ
ทั้งหลายว่า ก็ต้องไม่กล่าวว่า กามคุณ 5 เท่านั้น นี้ความว่า บรรดา

ธรรมทั้งหลาย มีความพอใจเกี่ยวด้วยกามคุณนั้น เป็นต้นมีอยู่ ท่านก็
ไม่ควรกล่าวว่ากามคุณ 5 เท่านั้น เป็นกามธาตุ. อธิบายว่า ก็ธรรม
ทั้งหลายมีความพอใจ เป็นต้นแม้เหล่านี้ ชื่อว่ากามด้วย ชื่อว่าธาตุด้วย
เพราะอรรถว่าเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา แม้เพราะเหตุนี้จึงชื่อว่ากามธาตุ
ฉันทะเป็นต้นชื่อว่าธาตุ อันบัณฑิตนับพร้อมแล้วว่ากามเพราะอรรถว่า
เป็นการชอบใจ แม้เพราะเหตุนี้ก็ชื่อว่า กามธาตุ. คำว่า จักขุของมนุษย์
ทั้งหลาย
เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อแสดงถึงวัตถุกาม.
ในปัญหาเหล่านั้น ปรวาทีถูกถามว่า มโนของมนุษย์ทั้งหลาย
ไม่เป็นกามธาตุหรือ ?
อีก เพราะปฏิเสธซึ่งความที่อายตนะแม้ทั้ง 6 ว่า
ไม่เป็นกามธาตุเป็นแต่วัตถุกาม ทั้งไม่ตอบรับรองซึ่งความที่ใจนั้นว่า
เป็นกามธาตุ เพราะหมายเอามหัคคตและโลกุตตรจิต. อันที่จริง มโนที่
เป็นไปในภูมิ 2 แม้ทั้งหมดก็ชื่อว่ากามธาตุทั้งนั้น เหตุใด เพราะเหตุนั้น
สกวาทีจึงตำหนิปรวาทีนั้นด้วยการอ้างพระสูตร. คำว่า กามคุณเป็นภพ
เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อแสดงซึ่งความที่ภพเป็นกามธาตุ. แต่โวหารว่า
ภพ ในคำสักว่ากามคุณย่อมไม่มี เหตุใด เพราะเหตุนั้น ปรวาทีจึง
ปฏิเสธว่า ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น. คำทั้งปวงว่า กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึง
กามคุณ
เป็นต้น สกวาทีกล่าวแล้วเพื่อแสดงซึ่งความที่โวหารสักว่า
กามคุณเป็นกามธาตุก็หาไม่. จริงอยู่ กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงซึ่งกามภพ
อันบัณฑิตนับพร้อมแล้วว่ากามธาตุมีอยู่ และสัตว์ทั้งหลายผู้เกิดในกามภพ
นั้นแหละก็มีอยู่ ฉะนั้นบัณฑิตพึงทราบเนื้อความในที่ทั้งปวงโดยอุบายนี้
ว่าสัตว์ทั้งหลายย่อมเกิดย่อมแก่ ย่อมตาย ย่อมจุติ และย่อมอุบัติในกามภพ
นั้น มิใช่ในกามคุณทั้งหลาย ดังนี้แล.
อรรถกถากามคุณกถา จบ

กามกถา



[1214] สกวาที อายนะ 5 เท่านั้น เป็นกาม หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. ความพอใจที่เกี่ยวด้วยอายตนะ 5 นั้น มีอยู่ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า ความพอใจเกี่ยวด้วยอายตนะนั้นมีอยู่ ก็ต้อง
ไม่กล่าวว่า อายตนะ 5 เท่านั้น เป็นกาม.
ส. ความกำหนัดเกี่ยวด้วยอายตนะ 5 นั้น ความกำหนัด
ด้วยอำนาจความพอใจเกี่ยวด้วยอายตนะ 5 นั้น ความดำริเกี่ยวด้วย
อายตนะ 5 นั้น ความกำหนัดเกี่ยวด้วยอายตนะ 5 นั้น ความกำหนัดด้วย
อำนาจความยินดีเกี่ยวด้วยอายตนะ 5 นั้น ปีติเกี่ยวด้วยอายตนะ 5 นั้น
โสมนัสเกี่ยวด้วยอายตนะ 5 นั้น ปีติโสมนัสเกี่ยวด้วยอายตนะ 5 นั้น
มีอยู่ มิใช่หรือ.
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่าปีติโสมนัสเกี่ยวด้วยอายตนะ 5 นั้น มีอยู่ ก็
ต้องไม่กล่าวว่า อายตนะ 5 เท่านั้น เป็นกาม.
[1215] ป. ไม่พึงกล่าวว่า อายตนะ 5 เท่านั้น เป็นกาม หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
กามคุณนี้ 5 อย่าง 5 อย่างเป็นไฉน ? รูปที่เป็นวิสัยแห่งจักขุวิญญาณ ฯลฯ
โผฏฐัพพะที่เป็นวิสัยแห่งกายวิญญาณ ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ จำเริญใจ
น่ารัก ประกอบด้วยกาม เป็นที่ตั้งแห่งความยินดี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กามคุณ 5