เมนู

กามคุณกถา



[1210] สกวาที กามคุณ 5 เท่านั้น เป็นกามธาตุหรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. ความพอใจเกี่ยวด้วยกามคุณ 5 นั้น มีอยู่ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า ความพอใจเกี่ยวด้วยกามคุณนั้นมีอยู่ ก็ต้อง
ไม่กล่าวว่า กามคุณ 5 เท่านั้น เป็นกามธาตุ.
ส. ความกำหนัดเกี่ยวด้วยกามคุณ 5 นั้น ความกำหนัด
ด้วยอำนาจความพอใจเกี่ยวด้วยกามคุณ 5 นั้น ความดำริเกี่ยวด้วย
กามคุณ 5 นั้น ความกำหนัดเกี่ยวด้วยกามคุณ 5 นั้น ความกำหนัดด้วย
อำนาจความดำริเกี่ยวด้วยกามคุณ 5 นั้น ปีติเกี่ยวด้วยกามคุณ 5 นั้น
โสมนัสเกี่ยวด้วยกามคุณ 5 นั้น ปีติโสมนัสเกี่ยวด้วยกามคุณ 5 นั้น มีอยู่
มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า ปีติโสมนัสเกี่ยวด้วยกามคุณ 5 นั้นมีอยู่ ก็
ต้องไม่กล่าวว่า กามคุณ 5 เท่านั้น เป็นกามธาตุ.
[1211] ส. กามคุณ 5 เท่านั้น เป็นกามธาตุหรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. จักษุของมนุษย์ทั้งหลาย ไม่เป็นกามธาตุหรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. โสตะ ฆานะ ชิวหา กาย มโน ของมนุษย์ทั้งหลาย
ไม่เป็นกามธาตุ หรือ ?

ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. มโนของมนุษย์ทั้งหลาย ไม่เป็นกามธาตุ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า กามคุณ 5 ในโลก
มีมโนเป็นที่ 6 พระพุทธเจ้าทั้งหลายประกาศแล้ว บุคคลสำรอกความพอใจ
ในกามคุณ 5 และมโนนี้แล้ว ย่อมหลุดพ้นจากทุกข์ได้ ด้วยอาการอย่างนี้

ดังนี้1 เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่พึงกล่าวว่า มโนของมนุษย์ทั้งหลาย
ไม่เป็นกามธาตุ.
[1212] ส. กามคุณ 5 เท่านั้น เป็นกามธาตุ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กามคุณ เป็นภพ เป็นคติ เป็นสัตตาวาส เป็นสงสาร
เป็นกำเนิด เป็นวิญญาณฐิติ เป็นการได้อัตภาพ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงกามคุณมีอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัตว์ผู้เข้าถึงกามคุณมีอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัตว์ทั้งหลาย เกิดอยู่ แก่อยู่ ตายอยู่ จุติอยู่ อุบัติ-
อยู่ ในกามคุณ หรือ?

1. ขุ.สุ. 25/309.

ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอยู่ในกามคุณ
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กามคุณ เป็นปัญจโวการภพ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมอุบัติขึ้น พระ
ปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมอุบัติขึ้น คู่พระสาวกย่อมอุบัติขึ้นในกามคุณ
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กามธาตุ เป็นภพ เป็นคติ เป็นสัตตาวาส เป็นสงสาร
เป็นกำเนิด เป็นวิญญาณฐิติ เป็นการได้อัตภาพ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กามคุณ เป็นภพ เป็นคติ เป็นสัตตาวาส เป็นสงสาร
เป็นกำเนิด เป็นวิญญาณฐิติ เป็นการได้อัตภาพ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงกามธาตุ มีอยู่ หรือ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กรรมอันยังสัตว์ให้เข้าถึงกามคุณ มีอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัตว์ผู้เข้าถึงกามธาตุมีอยู่ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. สัตว์ผู้เข้าถึงกามคุณมีอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. สัตว์ทั้งหลาย เกิดอยู่ แก่อยู่ ตายอยู่ จุติอยู่ อุบัติ-
อยู่ ในกามธาตุ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัตว์ทั้งหลาย เกิดอยู่ แก่อยู่ ตายอยู่ จุติอยู่ อุบัติ-
อยู่ ในกามคุณ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอยู่ในกามคุณ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอยู่ในกามคุณ
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กามธาตุ เป็นปัญจโวการภพ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. กามคุณ เป็นปัญจโวการภพ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมอุบัติขึ้น พระ
ปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมอุบัติขึ้น คู่พระสาวกย่อมอุบัติขึ้น ในกามธาตุ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมอุบัติขึ้น พระ
ปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมอุบัติขึ้น คู่พระสาวกย่อมอุบัติขึ้น ในกามคุณ
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1213] ป. ไม่พึงกล่าวว่า กามคุณ 5 เท่านั้น เป็นกามธาตุ หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
กามคุณนี้ 5 อย่าง 5 อย่างเป็นไฉน ? รูปซึ่งเป็นวิสัยแห่งจักขุวิญญาณ
อันน่าปรารถนา น่าใคร่ จำเริญใจ น่ารัก ประกอบด้วยกาม เป็นที่ตั้งแห่งความ
กำหนัด เสียงซึ่งเป็นวิสัยแห่งโสตวิญญาณ กลิ่นซึ่งเป็นวิสัยแห่งฆาน
วิญญาณ รสซึ่งเป็นวิสัยแห่งชิวหาวิญญาณ โผฏฐัพพะซึ่งเป็นวิสัยแห่ง
กายวิญญาณ ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ จำเริญใจ น่ารัก ประกอบด้วยกาม เป็นที่ตั้ง
แห่งความกำหนัด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กามคุณ 5 อย่าง ฉะนี้แล ดังนี้
1
เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. ถ้าอย่างนั้น ก็กามคุณ 5 เท่านั้น เป็นกามธาตุน่ะสิ.

กามคุณกถา จบ

1. สํ.สฬา 18/413.

อรรถกถากามคุณกถา



ว่าด้วย กามคุณ



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องกามคุณ. ในเรื่องนั้น ในลัทธิของสกวาทีก่อน
วัตถุกามก็ดี กิเลสกามก็ดี กามภพก็ดี ท่านเรียกว่า กามธาตุ. จริงอยู่
่ในบรรดากามเหล่านั้น วัตถุกามชื่อว่ากามเพราะอรรถว่าเป็นสิ่งที่น่า
ปรารถนา ชื่อว่าธาตุเพราะอรรถว่าเป็นสภาวะ เป็นนิสสัตตะ และเป็น
สุญญตะ ฉะนั้น จึงชื่อว่า กามธาตุ กิเลสกามชื่อว่ากามเพราะอรรถว่า
เป็นสิ่งที่น่าปรารถนาด้วยเพราะอรรถว่าเป็นการชอบใจด้วย ชื่อว่าธาตุ
เพราะอรรถตามที่กล่าวแล้วนั่นแหละ ฉะนั้นจึงชื่อว่า กามธาตุ กามภพ
ชื่อว่ากามเพราะเหตุ 3 คือ เพราะอรรถว่าเป็นสิ่งที่น่าใคร่ 1 เพราะ
อรรถว่าเป็นเครื่องก้าวไป 1 เพราะอรรถว่าเป็นสถานที่เป็นไปแห่ง
วัตถุกาม 1 ชื่อว่าธาตุเพราะอรรถตามที่กล่าวแล้วนั่นแหละ ฉะนั้นจึง
ชื่อว่า กามธาตุ. ก็ในลัทธิของผู้อื่นถือเอากามคุณ 5 เท่านั้นเป็นกามธาตุ
เพราะอาศัยสักแต่บาลีว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กามคุณนี้ 5 อย่าง
ดังนี้. เพราะฉะนั้น ชนเหล่าใด มีความเห็นผิดนี้ดุจลัทธิของนิกายปุพพเสลิยะ
ทั้งหลาย สกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น จึงถามว่า กามคุณ 5 เท่านั้น เป็นต้น
เพื่อท้วงซึ่งความที่กามคุณนั้นเป็นสภาพที่แตกต่างไปจากกามธาตุ คำ
ตอบรับรองเป็นของปรวาทีด้วยสามารถแห่งลัทธิ. คำว่า มีอยู่มิใช่หรือ
เป็นต้น สกวาทีกล่าวแล้วเพื่อแสดงถึงกิเลสกาม.
ในคำเหล่านั้น คำว่า ความพอใจเกี่ยวด้วยกามคุณนั้น ได้แก่
เกี่ยวพร้อมเฉพาะแล้วด้วยกามคุณ คือมีกามคุณเป็นอารมณ์. ในคำ
ทั้งหลายว่า ก็ต้องไม่กล่าวว่า กามคุณ 5 เท่านั้น นี้ความว่า บรรดา