เมนู

อรรถกถาฉคติกถา



ว่าด้วย คติ 6



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องคติ 6. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจ
ลัทธิของนิกายอันธกะ และอุตตราปถกะทั้งหลายว่า คติมี 6 รวมทั้ง
อสุรกาย ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็น
ของปรวาที. ลำดับนั้น สกวาที เพื่อจะท้วงด้วยสามารถแห่งคติทั้งหลาย
ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกำหนดไว้ในเรื่องโลมหังสนสูตรว่า ดูก่อน
สารีบุตร คติ 5 เหล่านี้แลมีอยู่
ดังนี้ จึงกล่าวว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสคติไว้ 5 มิใช่หรือ
เป็นต้น ปรวาทีตอบรับรองเพราะกลัวผิดจาก
พระสูตร. ถามว่า ก็เพราะเหตุไร สกวาทีจึงไม่รับรองคติ 6 แม้อสุรกาย
ท่านก็สงเคราะห์เข้าในอบายภูมิ ดังคำนี้ว่า พระอริยเจ้าพ้นแล้วจาก
อบายทั้ง 4
ดังนี้ มิใช่หรือ ? แก้ว่า ท่านสงเคราะห์อสุรกายไว้ในข้อนั้น
ก็จริง ถึงอย่างนั้นก็ไม่จัดเป็นคติ. ถามว่า เพราะเหตุไร ? แก้ว่า เพราะ
ไม่มีคติส่วนหนึ่งต่างหาก. จริงอยู่ พวกอสูรชื่อว่ากาลกัญชิกาในจำพวก
อสุรกาย ท่านสงเคราะห์เข้าในคติแห่งเปรต. บริษัทของท้าวเวปจิตติ
ท่านสงเคราะห์เข้าในคติแห่งพวกเทพ. คำว่า อสุรกาย นี้ ชื่อว่าเป็นส่วน
หนึ่งต่างหากย่อมไม่มี.
บัดนี้ สกวาทีจึงเริ่มคำว่า อสูรพวกกาลกัญชิกา เป็นต้น เพื่อจะ
แสดงอรรถอย่างเดียวกันนั้นนั่นแหละ. ในคำเหล่านั้น คำว่า สมานวณฺณา
ได้แก่ มีรูปร่างสัณฐานอย่างเดียวกัน. คำว่า มีรูปร่างน่าเกลียด ได้แก่
มีรูปพิการ มีลักษณะชั่ว. คำว่า มีการเสวยอารมณ์อย่างเดียวกัน ได้แก่

มีการประพฤติในเมถุนธรรมเช่นเดียวกัน. คำว่า มี อาหารอย่างเดียวกัน
ได้แก่ มีอาหาร มีน้ำลาย น้ำมูก น้ำเหลืองและเลือดเป็นต้นอย่างเดียวกัน.
คำว่า มีอายุเท่ากัน ได้แก่ มีการกำหนดอายุเหมือนกัน. คำว่า อาวาหะ
และวิวาหะ
ได้แก่ การรับหญิงสาว และการให้หญิงสาว.
ในฝ่ายเทพเจ้า สุกฺกปกฺเข ในพวกคุณงามความดี คำว่า มี
รูปร่างเหมือนกัน
ได้แก่ เป็นผู้มีรูปร่างสวยงามเช่นเดียวกัน ถึงพร้อม
ด้วยรัศมี อันนำมาซึ่งความเลื่อมใสน่าทัศนา คือน่ารักน่าดู. คำว่า มีการ
เสวยอารมณ์อย่างเดียวกัน
ได้แก่ มีการบริโภคกามคุณ 5 เหมือนกัน. คำว่า
มีอาหารอย่างเดียวกัน ได้แก่ อาหารมีสุธาโภชน์เป็นต้นเหมือนกัน.
คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวมาแล้วทั้งนั้น. คำว่า มีอสุรกายมิใช่หรือ นี้ เป็น
การสำเร็จประโยชน์แต่เพียงว่าอสูรกายมีอยู่เท่านั้น แต่ไม่สำเร็จว่าเป็น
คติของอสุรกายนั้น เพราะไม่มีการกำหนดคติของอสุรกายไว้ส่วนหนึ่ง
ดังนี้แล.
อรรถกถาฉคติกถา จบ

อันตราภวกถา



[1198] สกวาที อันตราภพ1 มีอยู่หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เป็นกามภพ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อันตราภพมีอยู่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นรูปภพหรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อันตราภพมีอยู่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นอรูปภพหรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1199] ส. อันตราภพมีอยู่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อันตราภพมีอยู่ในระหว่างกามภพและรูปภพหรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อันตราภพมีอยู่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อันตราภพมีอยู่ในระหว่างรูปภพและอรูปภพหรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1200] ส. อันตราภพไม่มีอยู่ในระหว่างกามภพและรูปภพหรือ ?

1. ภพในระหว่าง.