เมนู

อรรถกถาลักขณยุตติกถา1


ว่าด้วยการประกอบลักษณะ


บัดนี้ ชื่อว่าลักขณยุตติ คือ การประกอบลักษณะ. ในปัญหา
นั้น คำซักถาม 8 ข้อของสกวาที มีคำว่า บุคคลมีปัจจัยหรือ เป็นต้น
โดยหมายเอาว่า ยกเว้นพระนิพพานแล้ว สัจฉิกัตถปรมัตถะที่เหลือชื่อ
ว่า มีปัจจัยเพราะเป็นสภาพเนื่องด้วยปัจจัย ชื่อว่าสังขตะเพราะปัจจัย
เหล่านั้นประชุมกันปรุงแต่งขึ้น ชื่อว่าไม่เที่ยงเพราะเกิดแล้วดับไปไม่มี
อยู่ในกาลทุกเมื่อ ชื่อว่ามีนิมิตเพราะความที่นิมิตอันนับพร้อมแล้วว่าเหตุ
แห่งการอุบัติมีอยู่ ส่วนพระนิพพานมีลักษณะแห่งสัจฉิกัตถะดังนี้ คือ
พระนิพพานชื่อว่าไม่มีปัจจัย ชื่อว่าเป็นอสังขตะ ชื่อว่าเที่ยง ชื่อว่าไม่
มีนิมิตเพราะไม่มีประการดังกล่าวแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าแม้บุคคลเป็น
สัจฉิกัตถปรมัตถะไซร้ แม้บุคคลนั้นก็จะพึงมีลักษณะดังกล่าวนี้. คำ
ปฏิเสธเป็นของปรวาที. ก็ในคำนี้ว่า ท่านจงรู้นิคคหะ เป็นต้น
ท่านย่อไว้. ในฝ่ายสกวาที บัณฑิตพึงทราบหมวด 5 นิคคหะ 8 เหล่านี้
ด้วยสามารถสักว่าอนุโลมในอนุโลมปัจจนิก ด้วยประการฉะนี้. แม้ใน
ฝ่ายปรวาทีก็พึงทราบหมวด 5 ปฏิกรรม 8 ด้วยสามารถสักแต่ว่าปัจจนิก
ในปัจจิกานุโลมนั่นแหละ. ในปัจจนิกอนุโลมนั้นปรวาทีทำสมมติสัจจะ
ให้สำเร็จด้วยสามารถแห่งพระสูตร แต่สภาพธรรมที่มีปัจจัยเป็นต้นแห่ง
สมมติสัจจะหามีไม่ เพราะฉะนั้น สกวาทีจึงปฏิเสธตามความเป็นจริง
1. บาลีเป็น ลักขณยุตติกตา.

อนึ่ง คำว่า ท่านจงรู้ปฏิกรรม เป็นต้น เป็นคำที่ปรวาทีกล่าวด้วย
เลศนัย คำทั้งปวงท่านย่อไว้แม้ในที่นี้นั่นเทียว.
อรรถกถาลักขณยุตติกถา จบ

วจนโสธนะ


[62] ส. บุคคลเป็นสภาวะที่หยั่งเห็นได้ สภาวะที่หยั่งเห็น
ได้ ก็เป็นบุคคล หรือ ?
ป. บุคคลเป็นสภาวะที่หยั่งเห็นได้ แต่สภาวะที่หยั่ง
เห็นได้บางอย่างเป็นบุคคล บางอย่างไม่เป็นบุคคล.
ส. บุคคลบางอย่างเป็นสภาวะที่หยั่งเห็นได้ บางอย่าง
เป็นสภาวะที่หยั่งเห็นไม่ได้ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[63] ส. บุคคลเป็นสภาวะที่จริงแท้ [สัจฉิกัตถะ] สภาวะ
ที่จริงแท้ก็เป็นบุญ หรือ ?
ป. บุคคลเป็นสภาวะที่จริงแท้ แต่สภาวะที่จริงแท้บาง
อย่างเป็นบุคคล บางอย่างไม่เป็นบุคคล.
ส. บุคคลบางอย่างเป็นสภาวะที่จริงแท้ บางอย่างไม่
เป็นสภาวะที่จริงแท้ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น.
[64] ส. บุคคลเป็นสภาวะที่ประสบอยู่ สภาวะที่ประสบอยู่
ก็เป็นบุคคล หรือ ?
ป. บุคคลเป็นสภาวะที่ประสบอยู่ แต่สภาวะที่ประสบ
อยู่ บางอย่างเป็นบุคคล บางอย่างไม่เป็นบุคคล.