เมนู

นิยามกถา


[1046] สกวาที บุคคลผู้ไม่แน่นอน คือยังเป็นปุถุชน มี
ญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่นอน คืออริยมรรค หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้แน่นอน คืออริยบุคคล มีญาณเพื่อไปสู่
โลกกิยธรรมอันมิใช่ทางแน่นอน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
[1047] ส. บุคคลผู้แน่นอนไม่มีญาณเพื่อไปสู่ โลกิยธรรม
อันมิใช่ทางแน่นอน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนไม่มีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่
นอน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1048] ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่
นอน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้แน่นอนมีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่นอน
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

[1049] ส. บุคคลผู้แน่นอนไม่มีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่นอน
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนไม่มีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่
นอน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
[1050] ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่
นอน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีญาณเพื่อไปสู่ โลกิยธรรม
อันมิใช่ทางแน่นอน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
[1051] ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนไม่มีญาณเพื่อไปสู่ โลกิย-
ธรรมอันมิใช่ทางแน่นอน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนไม่มีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่
นอน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
[1052] ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่
นอน หรือ ?

ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีทางอันแน่นอน เพื่อไปสู่
ทางอันแน่นอน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
[1153] ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่
นอน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีสติปัฏฐาน ฯ ล ฯ สัมมัปป-
ธาน อิทธิบาท อินทรีย์ พละ โพชฌงค์ เพื่อไปสู่ทางอันแน่นอน
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1054] ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอน ไม่มีทางอันแน่นอนเพื่อไป
สู่ทางอันแน่นอน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า บุคคลผู้ไม่แน่นอน ไม่มีทางอันแน่นอน
เพื่อไปสู่ทางอันแน่นอน ก็ต้องไม่กล่าวว่า บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีญาณ
เพื่อไปสู่ทางอันแน่นอน หรือ ?
[1055] ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนไม่มีสติปัฏฐาน ฯลฯ โพช-
ฌงค์ เพื่อไปสู่ทางอันแน่นอน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.

ส. หากว่า บุคคลผู้ไม่แน่นอน ไม่มีโพชฌงค์เพื่อ
ไปสู่ทางอันแน่นอน ก็ต้องไม่กล่าวว่า บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีญาณเพื่อไป
สู่ทางอันแน่นอน.
[1056] ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่
นอน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. โคตรภูบุคคลมีญาณในโสดาปัตติมรรค หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
[1057] ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล มี
ญาณในโสดาปัตติผล หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล ฯลฯ
เพื่อทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ฯ ล ฯ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล มีญาณ
ในอรหัตผล หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
[1058] ป. ไม่พึงกล่าวว่า บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีญาณเพื่อไป
ทางอันไม่แน่นอน หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงทราบได้ว่า บุคคลนี้
จักก้าวลงสู่ทางอันแน่นอนเพื่อความชอบ บุคคลนี้เป็นรู้ควรเพื่อจะตรัสรู้
ธรรมนี้ มิใช่หรือ ?

ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงทราบได้ว่า
บุคคลนี้จักก้าวลงสู่ทางอันแน่นอนเพื่อความชอบ บุคคลนี้เป็นผู้ควร
เพื่อจะตรัสรู้ธรรม ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงกล่าวว่า บุคคลผู้ไม่แน่นอน
มีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่นอน.
นิยามกถา จบ

อรรถกถานิยามกถา


ว่าด้วยนิยาม


บัดนี้ ชื่อว่า เรื่องนิยาม คือทางอันแน่นอนได้แก่ อริยมรรค.
ในเรื่องนั้นชนเหล่าใด มีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายอุตตราปถกะ
ทั้งหลายว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมทรงทราบว่า บุคคลใดจักหยั่งลง
สู่สัมมัตตนิยาม คือมรรคอันถูกต้อง บุคคลนั้นควรเพื่อจะตรัสรู้ธรรมนั้น
เหตุใด เพราะเหตุนั้น ญาณเพื่อการบรรลุนิยาม คือทางอันแน่นอน
ของอนิยตบุคคลผู้เป็นปุถุชนนั่นแหละมีอยู่ ดังนี้ คำถามว่า อนิยต
คือบุคคลผู้ไม่แน่นอน
เป็นต้น ของพระสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น.
คำว่า เพื่อไปสู่ทางอันแน่นอน ในปัญหานั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงตรัสเรียกมรรคว่านิยาม อธิบายว่า เพื่อการบรรลุมรรค เพื่อการ
หยั่งลงสู่มรรค. ก็คำว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมทรงทราบว่า บุคคลนี้
ควรเพื่อบรรลุนิยาม เพราะเห็นญาณอันใดของบุคคลนั้น พระปรวาที
หมายญาณนั้น จึงตอบรับรอง. ลำดับนั้น สกวาทีเพื่อแสดงว่า วาทะ