เมนู

อรรถกถาวิปรีตกถา


ว่าด้วยญาณวิปริต


บัดนี้ ชื่อว่า เรื่องญาณวิปริต. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีความ
เห็นดุจลัทธิของนิกายอันธกะทั้งหลายว่า ผู้ใดมีสัญญาในปฐวีย่อมเข้า
สมาบัติมีปฐวีเป็นอารมณ์ ญาณนั้นของผู้นั้นเป็นญาณวิปริต ดังนี้
คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้นคำตอบรับรองเป็นของปรวาที พึง
ทราบคำอธิบายของปัญหานั้นดังนี้ว่า นิมิตที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยปฐวี
แต่นิมิตที่เกิดนั้นไม่ใช่ปฐวีเลย อนึ่ง ผู้ใดมีความสำคัญในปฐวีกสินย่อม
เข้าฌานมีปฐวีเป็นอารมณ์ ฌานนั้นชื่อว่ามีญาณอันวิปริต คือผิดจาก
ความเป็นจริงดังนี้.
ลำดับนั้น สกวาทีเพื่อจะท้วงว่า ลักขณปฐวีก็ดี สสัมภารปฐวีก็ดี
นิมิตตปฐวีก็ดี ปฐวีเทวดาก็ดี ปฐวีทั้งหมดนั่นแหละ ในปฐวีเหล่านั้น
ญาณว่าปฐวีมิใช่เป็นญาณวิปริต ส่วนความเห็นอันผิดปกติในธรรมที่
ไม่เที่ยงว่าเที่ยงเป็นต้นชื่อว่าญาณวิปริต ญาณในปฐวีทั้งหลายเหล่านี้
ญาณใดญาณหนึ่งตามลัทธิของท่านเป็นญาณวิปริตหรือ จึงกล่าวคำว่า
มีความเห็นผิดในสภาวะที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง เป็นต้น ปรวาทีตอบ
ปฏิเสธ หมายเอาความไม่มีลักขณะอันคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
ย่อมตอบรับรองหมายเอาปฐวีนิมิต. คำว่า กุสลํ ท่านกล่าวหมาย
เอาญาณของพระเสกขะและปุถุชนทั้งหลาย.

แม้ในปัญหาว่า พระอรหันต์ยังมีความเห็นผิดอยู่ หรือ
ปรวาทีตอบปฏิเสธ เพราะความไม่มีลักขณะอันวิปัลลาสเช่นนั้น ย่อม
ตอบรับรองหมายเอาปฐวีนิมิต.
คำว่า เป็นคนล้วนเทียวหรือ ความว่า ปรวาทีถามด้วย
คำว่า ปฐวีกสินทั้งปวงนั้นเป็นลักขณปฐวีทั้งหมดหรือ สกวาทีตอบ
ปฏิเสธเพราะความไม่มีเช่นนั้น.
คำถามของสกวาทีว่า ดินมีอยู่ และบางคนที่เข้าปฐวีกสิน
จากดินก็มีอยู่มิใช่หรือ
ดังนี้ พึงทราบเนื้อความแห่งปัญหานั้นว่า
สกวาทีถามว่า นิมิตตปฐวีอยู่ บุคคลย่อมเข้าสมาบัติมีดินเป็นนิมิตจาก
ดินนั้นแหละก็มีอยู่ มิได้เข้าจากอาโป หรือจากเตโชมิใช่ หรือ ดังนี้.
คำว่า ดินมีอยู่ เป็นต้น สกวาทีกล่าวเพื่อแสดงด้วยคำว่า ถ้าญาณ
ของผู้เข้าปฐวีกสินเป็นญาณวิปริตฉันนั้นไซร้ นิพพานมีอยู่เมื่อบุคคล
เข้าสมาบัติ มีนิพพานเป็นอารมณ์ก็ดี มรรคญาณอันถอนซึ่งความวิปริต
ทั้งปวงก็ดี ก็ย่อมจะวิปริตตามลัทธิของท่าน ดังนี้.
อรรถกถาวิปรีตกถา จบ

นิยามกถา


[1046] สกวาที บุคคลผู้ไม่แน่นอน คือยังเป็นปุถุชน มี
ญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่นอน คืออริยมรรค หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้แน่นอน คืออริยบุคคล มีญาณเพื่อไปสู่
โลกกิยธรรมอันมิใช่ทางแน่นอน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
[1047] ส. บุคคลผู้แน่นอนไม่มีญาณเพื่อไปสู่ โลกิยธรรม
อันมิใช่ทางแน่นอน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนไม่มีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่
นอน หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1048] ส. บุคคลผู้ไม่แน่นอนมีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่
นอน หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้แน่นอนมีญาณเพื่อไปสู่ทางอันแน่นอน
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ