เมนู

อรรถกถาวิมุตตกถา


ว่าด้วยวิมุตติ


บัดนี้ ชื่อว่า เรื่องวิมุตติ คือการหลุดพ้น. ในเรื่องนั้น คำว่า
วิมุตตญาณ เป็นชื่อของญาณทั้ง 4 คือ วิปัสสา 1. มัคค 1.
ผล 1. และปัจจเวกขณญาณ 1. บรรดาญาณเหล่านั้น วิปัสสนา
ชื่อว่า วิมุตติญาณ
เพราะหลุดพ้นแล้วจากนิมิตตารมณ์เป็นนิตย์ หรือ
เพราะความเป็นตทังควิมุติ มรรค ชื่อว่า สมุจเฉทวิมุติ ผล ชื่อว่า
ปฏิปัสสัทธิวิมุติ
ก็ปัจจเวกขณญาณย่อมรู้ซึ่งวิมุติ เพราะฉะนั้น จึง
ชื่อว่า วิมุตติญาณ ในวิมุตติญาณ 4 อย่าง อย่างนี้ ผลญาณเท่านั้น
หลุดพ้นแล้วโดยสิ้นเชิง วิมุตติญาณ 3 ที่เหลืออันใคร ๆ ไม่พึงกล่าวว่า
หลุดพ้นแล้ว หรือว่าไม่หลุดพ้นแล้ว ดังนี้ เพราะฉะนั้น ชนเหล่าใด
มีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายอันธกะทั้งหลายว่า วิมุตติญาณหลุด-
พ้นแล้วโดยไม่แปลกกันเลย เพราะไม่กล่าวว่า วิมุตติญาณชื่อนี้หลุด-
พ้นแล้ว ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรอง
เป็นของปรวาที. ถูกถามอีกว่า วิมุตติญาณไม่ว่าอย่างใดหมดชื่อว่า
หลุดพ้นแล้ว
ปรวาทีตอบปฏิเสธ เพราะหมายเอาปัจจเวกขณญาณ
เป็นต้น ถูกถามว่า ของบุคคลผู้ปฏิบัติ เป็นต้น ก็ตอบรับรอง
หมายเอาความไม่มีอาสวะของมรรคญาณ. สกวาทีกล่าวว่า ญาณของ

พระโสดาบัน ดังนี้ เป็นต้นอีก เพื่อท้วงว่า ก็ญาณนั้นไม่ใช่ญาณ
ของพระโสดาบันผู้ตั้งอยู่ในผล แต่ก็ชื่อว่า วิมุตติญาณหรือ ดังนี้.
พึงทราบเนื้อความในที่ทั้งปวงโดยอุบายนี้ ดังนี้แล.
อรรถกถาวิมุตตกถา จบ

อเสกขญาณกถา


[1030] สกวาที พระเสกขะ มีญาณของพระเสกขะ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. พระเสกขะ รู้เห็นธรรมของพระอเสกขะได้
เข้าถึงอยู่ ถูกต้องด้วยกายอยู่ ซึ่งธรรมของพระอเสกขะที่ตนเห็นแล้ว
รู้แล้ว ทำให้แจ้งแล้วได้ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
ส. ธรรมของพระอเสกขะ อันพระเสกขะ รู้ไม่ได้
เห็นไม่ได้ เมื่อมิได้เห็น มิได้รู้ ก็เข้าถึงไม่ได้ ถูกต้องด้วยกายไม่ได้
มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า ธรรมของพระอเสกขะ อันพระเสกขะ
รู้ไม่ได้ เห็นไม่ได้ เมื่อมิได้เห็น มิได้รู้ มิได้ทำให้แจ้ง ก็เข้าถึงไม่
ได้ ถูกต้องด้วยกายไม่ได้ ก็ต้องไม่กล่าวว่า พระเสกขะมีญาณของ
พระอเสกขะ.
[1031] ส. พระอเสกขะ มีญาณของพระอเสกขะ พระ-
อเสกขะรู้เห็นธรรมของพระอเสกขะได้ เข้าถึงอยู่ ถูกต้องด้วยกายอยู่
ซึ่งธรรมของพระอเสกขะ ที่ตนเห็นแล้ว รู้แจ้งแล้ว ทำให้แจ้งแล้วได้
หรือ ?