เมนู

[1025] ป. ไม่พึงกล่าว การละสังโยชน์ทั้งปวง ชื่อว่า
อรหัตผล หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. พระอรหันต์มีสังโยชน์ทั้งปวงเสื่อมสิ้นแล้ว มิใช่
หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า พระอรหันต์มีสังโยชน์ทั้งปวงเสื่อมสิ้น
แล้ว ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้องกล่าวว่า การละสังโยชน์ทั้งปวง ชื่อว่า
อรหัตผล ดังนี้.
สัพพสัญโญชนปหานกถา จบ

อรรถกถาสัพพสัญโญชนัปปหานกถา


ว่าด้วยการละสัญโญชน์ทั้งปวง


บัดนี้ ชื่อว่า เรื่องการละสัญโญชน์ทั้งปวง. ในเรื่องนั้น ชน-
เหล่าใด มีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายอันธกะทั้งหลายในขณะนี้ว่า
ความเป็นพระอรหันต์ละสัญโญชน์ทั้งปวงได้โดยสิ้นเชิง ดังนี้ คำ
ถามของสกวาทีหมายชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. ถูก
สกวาทีถามด้วยคำว่า สัญโญชน์ทั้งปวง อีก ปรวาทีตอบปฏิเสธหมาย
เอาการละกิเลสโดยมรรคทั้ง 3 ตามที่กล่าวแล้วในหนหลัง. ถูกถามครั้ง

ที่ 2 ปรวาทีตอบรับรอง เพราะไม่มีการละกิเลสด้วยมรรคนั้น. แม้
ในคำว่า สักกายทิฏฐิ เป็นต้น ปรวาทีก็ตอบปฏิเสธ หมายเอาความ
เป็นผู้ละกิเลสได้แล้วด้วยปฐมมรรค. ย่อมตอบรับรอง หมายเอาการละ
กิเลสไม่เหลือด้วยมรรคที่ 4. เนื้อความในที่ทั้งปวง ก็นัยนี้นั้นแหละ.
อรรถกถาสัพพสัญโญชนัปปหานกถา จบ

รวมกถาที่มีในวรรคนี้คือ


1. คิหิสสอรหาติกถา 2. อุปปัตติกถา 3. อนาสวกถา
4. สมันนาคตกถา 5. อุเปกขาสมันนาคตกถา 6. โพธิยาพุทโธติกถา
7. ลักขณกถา 8. นิยาโมกกันติกถา 9. อปราปิสมันนาคตกถา
10. สัพพสัญโญชนัปปหานกถา.
วรรคที่ 4 จบ