เมนู

ส. ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่พึงกล่าวว่า พระโพธิสัตว์
ได้หยั่งละทางอันแน่นอน มีพรหมจรรย์อันประพฤติแล้ว ในศาสนา
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่า กัสสปะ.
นิยาโมกกันติกถา จบ

อรรถกถานิยาโมกกันติกถา1


ว่าด้วยการหยั่งลงสู่นิยาม


บัดนี้ ชื่อว่า เรื่องการหยั่งลงสู่นิยาม การหยั่งลงสู่ทางอันแน่-
นอนคืออริยมรรค. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใด มีความเห็นผิดดุจลัทธิ
ของนิกายอันธกะทั้งหลายในขณะนี้ว่า พระโพธิสัตว์มีนิยามอันหยั่ง
ลงแล้ว มีพรหมจรรย์อันประพฤติแล้วในพระธรรมวินัยของพระผู้มี
พระภาคเจ้าพระนามว่ากัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะหมายเอาการ
บรรพชาของโชติปาละในฆฏิการสูตรสกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้นจึงถาม
ด้วยคำว่า พระโพธิสัตว์ เป็นต้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที
เพราะตั้งอยู่ในลัทธิ. เนื้อความจากนั้น คำว่า นิยาม คือทางอัน
แน่นอนก็ดี พรหมจรรย์ก็ดี เป็นชื่อของอริยมรรค.
อนึ่ง
ยกเว้นการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์เสียแล้ว ชื่อว่าการหยั่งลงสู่
นิยามอย่างหนึ่งย่อมไม่มี ถ้าพระโพธิสัตว์พึงเป็นพระโสดาบัน พึงเป็น
1. คำว่า "นิยาโมกฺกนฺติ" แยกเป็น นิยามํ ได้แก่ อริยมรรค โอกฺกนฺติ ได้แก่
การหยั่งลง.

อริยสาวกไซร้ ข้อนั้นหาเป็นไปได้ไม่. จริงอยู่ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ย่อมทรงพยากรณ์พระโพธิสัตว์นั้นว่า ผู้นี้จักเป็นพระพุทธเจ้า เพราะ
พระองค์ดำรงอยู่ในญาณอันเป็นกำลังของพระองค์นั่นแหละ เพราะ-
ฉะนั้น สกวาทีจึงซักถามด้วยคำว่า พระโพธิสัตว์ อีก. คำตอบ
ปฏิเสธเป็นของปรวาที หมายเอาปัจฉิมภพ คือภพสุดท้าย.
ในปัญหาที่ 2 ปรวาทีนั้นนั่นแหละ ตอบรับรอง หมายเอา
เวลาที่พระพุทธเจ้า เมื่อครั้งเป็นโชติปาละ. แม้ในคำทั้งหลายมีคำว่า
เป็นพระสาวก เป็นต้น ก็นัยนี้แหละ. คำว่า การฟังตาม
หมายความว่า ผู้มีธรรมอันแทงตลอดแล้วด้วยการฟังสืบ ๆ กันมา.
ปรวาทีตอบปฏิเสธ เพราะหมายเอาปัจฉิมภพ ย่อมตอบรับรองหมายเอา
การฟังต่อ ๆ กันมาในกาลเป็นโชติปาละ. คำว่า นับถือศาสดาอื่น
ที่สกวาทีกล่าวแล้วนั้นหมายเอาอาฬารดาบส และรามบุตรดาบส. คำว่า
ท่านพระอานนท์ เป็นต้น ที่สกวาทีกล่าวแล้วเพื่อแสดงว่า ผู้มี
นิยามอันหยั่งลงแล้วเท่านั้นเป็นพระสาวก นอกจากนี้ไม่ใช่ แต่ผู้มี
นิยามอันหยั่งลงแล้วเช่นนี้มีอยู่ ดังนี้. ข้อว่า เป็นสาวกครั้นล่วง
ชาติหนึ่งไปแล้ว
ความว่า สกวาทีย่อมถามด้วยคำว่า เป็นพระสาวก
ด้วยชาติใดแต่พอล่วงเลยชาตินั้นไปแล้วไม่เป็นสาวกในภพอื่นหรือ ดังนี้
ปรวาทีตอบปฏิเสธ เพราะความที่พระโสดาบันเป็นต้น เป็นพระสาวก.
คำที่เหลือในที่นี้เนื้อความง่ายทั้งนั้น แล.
อรรถกถานิยาโมกกันติกถา จบ

สมันนาคตกถา อีกกถาหนึ่ง


[985] สกวาที บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล
เป็นผู้ประกอบด้วยผล 3 หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล เป็นผู้
ประกอบด้วย ผัสสะ 4 เวทนา 4 สัญญา 4 เจตนา 4 จิต 4
สัทธา 4 วิริยะ 4 สติ 4 สมาธิ 4 ปัญญา 4 หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[986] ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล เป็น
ผู้ประกอบด้วยผล 2 หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล เป็น
ผู้ประกอบด้วยผัสสะ 3 เวทนา 3 ฯลฯ ปัญญา 3 หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
[987] ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผลเป็น
ผู้ประกอบด้วยโสดาปัตติผล หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผลเป็น
ผู้ประกอบด้วยผัสสะ 2 เวทนา 2 ฯ ล ฯ ปัญญา 2 หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ