เมนู

อรรถกถาอุปปัตติกถา


ว่าด้วยการผุดเกิด


บัดนี้ ชื่อว่า เรื่องการเกิด. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใด มีความ
เห็นผิดว่า พระอนาคามี อุบัติในสุทธาวาส ย่อมเป็นพระอรหันต์พร้อม
กับการอุบัติ เพราะถือเอาพระบาลีทั้งหลาย โดยไม่พิจารณาซึ่งมีคำว่า
เป็นอุปปาติกกำเนิด คือเกิดผุดขึ้นในเทวโลกนั้น ปรินิพพาน
แล้วในเทวโลกนั้น
ดังนี้เป็นต้น หรือว่า ชนเหล่าใดผู้ศึกษา
พระพุทธพจน์อยู่ มีความเห็นว่า พระอนาคามีเป็นพระอรหันต์
พร้อมกับการอุบัติขึ้น ดังนี้ เพราะเปลี่ยนแปลงบทว่า อุปหัจจปรินิพ-
พายี ซึ่งเป็นชื่อของพระอนาคามีจำพวกหนึ่งใน 48 จำพวก พระอนา-
คามีชื่อว่า อุปหัจจปรินิพพายี นี้ ท่านมีอายุก้าวล่วงกึ่งหนึ่งแห่งอายุ
ล่วงไปแล้ว อันเป็นเวลาใกล้จะปรินิพพาน ท่านก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์
แล้วจึงปรินิพพาน พวกเห็นผิดเหล่านั้น ได้เปลี่ยนชื่อจาก คำว่า
อุปหัจจปรินิพพายี มาเป็น อุปปัชชปรินิพพายี ซึ่งมีความหมายว่า
พอเกิดขึ้นก็ปรินิพพาน ดังนี้ ดุจลัทธิของนิกายอุตตราปถกะทั้งหลาย
ในขณะนี้ คำถามของสกวาที หมายชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็น
ของปรวาที. ในปัญหานั้น ชื่อว่า จิตต์ที่เกิดขึ้นย่อมเป็นโลกียจิต
ทั้งบุคคลทั้งหลาย เป็นพระโสดาบันเป็นต้นด้วยโลกียจิตต์นั้น ก็ไม่มีเลย
จะป่วยกล่าวไปใยถึงความเป็นพระอรหันต์เล่า เพราะเหตุนั้น เพื่อแสดง
นัยนี้แก่ปรวาทีนั้น สกวาทีจึงเริ่มคำเป็นต้นว่า เป็นพระโสดาบัน

พร้อมกับการผุดเกิดก็ได้หรือ. สกวาทีกล่าวคำว่า พระสารีบุตร
เป็นต้น เพื่อท้วงว่า บรรดาพระมหาเถระเหล่านี้ แม้องค์หนึ่ง ชื่อว่า
เป็นพระอรหันต์พร้อมกับการเกิดมีหรือ. คำว่า จิตดวงแสวงหาการ
ผุดเกิด
ได้แก่ ปฏิสนธิจิต จริงอยู่ ปฏิสนธิจิตนี้ ย่อมแสวงหา
การเกิด คือ สืบต่ออยู่ เพราะเหตุนั้นท่านจึงเรียกปฏิสนธิจิตนี้ว่า
จิตดวงแสวงหาการผุดเกิด. คำที่เหลือในที่นี้ มีเนื้อความง่ายทั้งนั้น
ดังนี้แล.
อรรถกถาอุปปัตติกถา จบ

อนาสวกถา


[890] สกวาที ธรรมทั้งปวงของพระอรหันต์ ไม่เป็นอา-
รมณ์ของอาสวะ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เป็นมรรค เป็นผล เป็นนิพพาน เป็นโสดา-
ปัตติมรรค เป็นโสดาปัตติผล เป็นสกทาคามิมรรค เป็นสกทาคามิผล
เป็นอนาคามิมรรค เป็นอนาคามิผล เป็นอรหัตมรรค เป็นอรหัตผล
เป็นสติปัฏฐาน เป็นสัมมัปปธาน เป็นอิทธิบาท เป็นอินทรีย์ เป็น
พละ เป็นโพชฌงค์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
[891] ส. ธรรมทั้งปวงของพระอรหันต์ ไม่เป็นอารมณ์
ของอาสวะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. จักษุของพระอรหันต์ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. จักษุของพระอรหันต์ ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.