เมนู

เป็นอสัญญภพในกาลตั้งอยู่ เป็นปัญจโวการภพในกาลจุติ ในกาลอุบัติ
เป็นเอกโวการภพในกาลตั้งอยู่ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
อสัญญกถา จบ

อรรถกถาอสัญญกถา


ว่าด้วยอสัญญา คือไม่มีสัญญา


บัดนี้ ชื่อว่า เรื่องสัญญา1. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใด มีความ
เห็นผิดดุจลัทธิของนิกายอันธกะทั้งหลาย ในขณะนี้ว่า สัญญามีอยู่ใน
ขณะแห่งจุติ และปฏิสนธิแม้ของอสัญญสัตว์ทั้งหลาย ว่า ขึ้นชื่อว่า
ปฏิสนธิ เว้นจากวิญญาณย่อมไม่มี
เพราะคำว่า วิญญาณมีสังขาร
เป็นปัจจัย
ดังนี้ และคำว่า ก็แล อสัญญีเทพเหล่านั้น ย่อมจุติ
จากกายนั้น เพราะความเกิดขึ้นแห่งสัญญา
ดังนี้ คำถามของ
สกวาทีหมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปราวาที. ต่อจากนั้น
1. เรื่องนี้ในคัมภีร์ยมกอธิบายว่า สัตว์ในปัญจโวการภพและจตุโวการภพ
ขณะปฏิสนธิมีสัญญาเกิดขึ้นในขณะจุติไม่มีสัญญาเพราะสัญญากำลังดับ ผู้เข้า
นิโรธสมาบัติในขณะนิโรธ สัญญาไม่มี ส่วนสัตว์ที่เป็นเอกโวการภพ คือ อสัญ-
ญีสัตว์ทั้งหลาย ขณะเกิดก็ดี ขณะตั้งอยู่ก็ดี ขณะจุติก็ดี ไม่มีสัญญาเกิดเลย.

สกวาทีเพื่อจะท้วงปรวาทีด้วยคำเป็นต้น ว่า ที่นั้นเป็นภพมีสัญญา
ตามลัทธิของท่านหรือ จึงกล่าวคำว่า เป็นสัญญีภพ เป็นสัญญ-
คติ
เป็นต้น. คำนั้นทั้งปวง และคำอื่นจากคำนั้นพึงทราบโดยนัย
แห่งพระบาลีนั่นแล.
อรรถกถาอสัญญกถา จบ

เนวสัญญานาสัญญายตนกถา


[852] สกวาที ไม่พึงกล่าวว่าสัญญามีอยู่ในเนวสัญญานา-
สัญญายตนภพ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เป็นอสัญญภพ เป็นอสัญญคติ เป็นอสัญสัตตา-
วาส เป็นอสัญญาสงสาร เป็นอสัญญโยนิ เป็นอสัญญัตตภาวปฏิลาภ
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
[853] ส. เป็นสัญญภพ สัญญคติ สัญญสัตตาวา สัญญ-
สงสาร สัญญโยนิ สัญญัตตภาวปฏิลาภ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า เป็นสัญญภพ เป็นสัญญคติ ฯลฯ เป็น
สัญญัตตภาวปฏิลาภ ก็ต้องไม่กล่าวว่า ไม่พึงกล่าวว่าสัญญามีอยู่ในเนว-
สัญญานาสัญญายตนภพ.
[854] ส. ไม่พึงกล่าวว่าสัญญามีอยู่ในเนวสัญญานาสัญญา.
ยตนภพ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. เป็นเอกโวการภพ คติ ฯลฯ อัตตภาวปฏิลาภ
หรือ
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ