เมนู

อรรถกถาวิมุตติกถา1


ว่าด้วยวิมุติ


บัดนี้ ชื่อว่า เรื่องวิมุติ คือความหลุดพ้น. ในปัญหานั้น ลัทธิ
แห่งชนเหล่าใด ดุจลัทธิของนิกายอันธกะทั้งหลายในขณะนี้ว่า ชื่อว่า
การปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นของจิตที่ปราศจากราคะแล้วหามีไม่ เหมือน
อย่างว่า ผ้าที่เขาซักฟอกเอามลทินออกไปย่อมพ้นจากมลทินได้ฉันใด
จิตมีราคะก็ฉันนั้น ย่อมหลุดพ้นจากราคะได้ ดังนี้ สกวาทีหมายชน
เหล่านั้น จึงถามปรวาทีว่า จิตมีราคะหลุดพ้นหรือ คำตอบรับรอง
เป็นของปรวาที. จากนั้นถูกถามโดยนัยว่า จิตสหรคตด้วยราคะ
เป็นต้นหลุดพ้นได้หรือ
ปรวาทีปฏิเสธโดยหมายเอาว่า ในขณะ
แห่งมรรคจิต จิตนั้นชื่อว่าย่อมหลุดพ้น
แต่ในกาลนั้น จิตเห็น
ปานนี้ย่อมไม่มี. แม้ถูกถามโดยนัยว่า จิตมีผัสสะ เป็นต้น
ปรวาทีเมื่อไม่เห็นความหลุดพ้นจากราคะเหมือนธรรมทั้ง 2 คือผัสสะ
และจิตหลุดพ้นจากราคะ ซึ่งตอบรับรองแล้ว จึงตอบปฏิเสธ. แม้ใน
จิตมีโทสะ เป็นต้น บัณฑิตพึงทราบเนื้อความโดยอุบายนี้ แล.
อรรถกถาวิมุตติกถา จบ
1. บาลีเป็น วิมุจจติกถา

วิมุจจมานกกถา


[754] สกวาที จิตที่หลุดพ้นแล้ว ยังหลุดพ้นอยู่ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. ส่วนหนึ่งหลุดพ้นแล้ว อีกส่วนหนึ่งยังไม่หลุด
พ้น หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[755] ส. ส่วนหนึ่งหลุดพ้นแล้ว อีกส่วนหนึ่งยังไม่หลุด
พ้น หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. ส่วนหนึ่ง เป็นพระโสดาบัน อีกส่วนหนึ่ง ไม่
เป็นพระโสดาบัน ส่วนหนึ่ง ถึงแล้ว ได้เฉพาะแล้ว บรรลุแล้ว ทำ
ให้แจ้งแล้ว เข้าถึงอยู่ถูกต้องด้วยกายอยู่ ซึ่งโสดาปัตติผล อีกส่วนหนึ่ง
ไม่ถูกต้องด้วยกายอยู่ ซึ่งโสดาปัตติผล ส่วนหนึ่ง เป็นพระโสดาบัน
ผู้สัตตขัตตุปรมะ ผู้โกลังโกละ ผู้เอกพีชี ประกอบด้วยความเลื่อมใส
อันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า ฯลฯ ในพระธรรม ฯลฯ ในพระสงฆ์
ฯลฯ ประกอบด้วยอริยกันตศีล อีกส่วนหนึ่ง ไม่ประโยคกอบด้วยอริย-
กันตศีล หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[756] ส. ส่วนหนึ่ง หลุดพ้นแล้ว อีกส่วนหนึ่ง ยังไม่
หลุดพ้น หรือ ?