เมนู

ส. ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่พึงกล่าวว่า สังขารทั้งปวงเป็น
ดุจเถ้าลึง ไม่มีระยะว่างเว้น.
กุกกุฬกถา จบ

อรรถกถากุกกุฬกถา


ว่าด้วยเถ้าลึง คือความร้อนระอุ


บัดนี้ ชื่อว่า เรื่องเถ้าลึง. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใดมีลัทธิคือ
มีความเห็นผิดดุจนิกายโคลิกะทั้งหลาย ในขณะนี้ว่า สังขารทั้งปวง
เป็นดุจเถ้าลึง คือเป็นเช่นกับฉาริกนรกอันเจือด้วยถ่านเพลิง โดยแน่
นอน เพราะไม่พิจารณาถือเอาพระสูตรที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน สังขารทั้งปวงเป็น
ทุกข์
ดังนี้เป็นต้น คำถามของสกวาทีเพื่อวิพากษ์ คือตำหนิ ลัทธิ
นั้นด้วยการชี้แจงถึงความสุขมีประการต่าง ๆ ของสังขารเหล่านั้น. คำ
ตอบรับรองเป็นของปรวาที. ในปัญหานั้น คำว่า ไม่มีระยะว่างเว้น
หรือ
ได้แก่ ไม่ทำเขตแดนส่วนหนึ่ง คือหมายความว่า ไม่ทำสิ่ง
ทั้งปวงนั่นแหละให้แปลกกัน. คำที่เหลือในที่ทั้งปวง พึงทราบโดยนัย
ที่แสดงไว้แล้วในบาลี พร้อมทั้งการชำระพระสูตรนั่นแล.
อรรถกถากุกกุฬกถา จบ

อนุปุพพาภิสมยกถา


[648] สกวาที การตรัสรู้ธรรมเป็นการตรัสรู้โดยลำดับ
หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. บุคคลยังโสดาปัตติมรรคให้เกิดได้โดยลำดับ
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลยังโสดาปัตติมรรคให้เกิดได้โดยลำดับ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผลได้โดยลำดับ
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[649] ส. การตรัสรู้ธรรมเป็นการตรัสรู้โดยลำดับ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลยังสกทาคามิมรรคให้เกิดได้โดยลำดับ
หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลยังสกทาคามิมรรคให้เกิดได้โดยลำดับ
หรือ ?