เมนู

ส. เทพทั้งหลายผู้อุบัติในอากาสานัญจายตนภพ
อุบัติด้วยจิตดวงใด ก็จุติด้วยจิตดวงเดียวกันนั้นแหละ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
จิตตฐิติกถา จบ

อรรถกถาจิตตัฏฐิติกถา


ว่าด้วยการตั้งอยู่แห่งจิต


บัดนี้ ชื่อว่า เรื่องการตั้งอยู่แห่งจิต. ในปัญหานั้น ลัทธิแห่ง
ชนเหล่าใดว่า จิตดวง 1 เท่านั้นย่อมตั้งอยู่ตลอดกาลนาน เพราะ
เห็นจิตแห่งสมาบัติ และภวังคจิตอันเป็นไปติดต่อกันโดยลำดับ ดุจลัทธิ
นิกายอันธกะทั้งหลายในขณะนี้ อันมีประเภทตามที่กล่าวแล้วในหนหลัง
เพื่อชำระลัทธินั้น สกวาทีจึงถามปรวาทีว่า จิตดวงหนึ่งตั้งอยู่ได้
แม้ตลอดวันหรือ
เป็นต้น ปรวาทีตอบรับรองว่า ใช่.
ในปัญหาว่า กึ่งวันเป็นขณะเกิด นี้ ท่านทำคำถามด้วย
สามารถแห่งความเกิดและความดับโดยนัยเทศนาว่า สังขารทั้งหลาย
ไม่เที่ยงหนอ มีความเกิดขึ้นและมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา

โดยไม่ถือเอาขณะตั้งอยู่แห่งจิต.
ถูกสกวาทีถามว่า ธรรมเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไปเร็วกว่า
จิตหรือ
ปรวาทีนั้นเมื่อไม่เห็นธรรมทั้งหลายเกิดดับเร็วกว่าจิต จึง
ตอบปฏิเสธ ถูกถามครั้งที่ 2 ท่านปรารถนาความตั้งอยู่อันเป็นเวลา
นานแห่งจิตใด โดยหมายเอาจิตนั้น จึงตอบรับรอง.

ในปัญหาทั้งหลายว่า จิตดวงเดียวตั้งอยู่จนตลอดอายุ
หรือ
ความว่า ปรวาทีย่อมตอบปฏิเสธโดยเว้นอรูป และย่อมตอบ
รับรองผู้ที่เกิดในอรูปด้วยสามารถแห่งพระบาลีว่า เทวดาทั้งหลาย
เหล่าใด ย่อมตั้งอยู่ตลอด 84,000 กัลป์ เป็นต้น ดังนี้.
ในปัญหาว่า จิตย่อมเกิดขึ้นครู่หนึ่ง. เป็นของปรวาที
สกวาทีตอบรับรองเพราะกลัวผิดจากพระสูตรว่า สังขารทั้งหลายมี
ความเกิดขึ้น และมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
เป็นต้นแต่
ปรวาทีนั้นย่อมปรารถนาความตั้งอยู่แห่งจิตด้วยสามารถแห่งลัทธิของ
ตน. คำที่เหลือในที่นี้มีอรรถง่ายทั้งนั้น แล.
อรรถกถาจิตตัฏฐิติกถา จบ

กุกกุฬกถา


[639] สกวาที สังขารทั้งปวง เป็นดุจเถ้าลึง คือร้อนระอุ
ไม่มีระยะว่างเว้น หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. สุขเวทนา สุขทางกาย สุขทางใจ สุขเป็นทิพย์
สุขของมนุษย์ สุขในลาภ สุขในสักการะ สุขในการไป สุขในการนอน
สุขในความเป็นใหญ่ สุขในความเป็นอธิบดี สุขของคฤหัสถ์ สุขของ
สมณะ สุขมีอาสวะ สุขไม่มีอาสวะ สุขมีอุปธิ สุขไม่มีอุปธิ สุขมี
อามิส สุขไม่มีอามิส สุขมีปีติ สุขไม่มีปีติ สุขในฌาน สุขคือความ
หลุดพ้น สุขในกาม สุขในการออกบวช สุขเกิดแต่ความวิเวก สุข
คือความสงบ สุขเกิดแต่ความตรัสรู้ มีอยู่ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า สุขเวทนา ฯ ล ฯ สุขเกิดแก่ความตรัสรู้
มีอยู่ ก็ไม่ต้องกล่าวว่า สังขารทั้งปวงเป็นดุจเถ้าลึง ไม่มีระยะว่างเว้น.
[640] ส. สังขารทั้งปวงเป็นดุจเถ้าลึง ไม่มีระยะว่างเว้น
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สังขารทั้งปวงเป็นทุกขเวทนา เป็นทุกข์ทางกาย
เป็นทุกข์ทางใจ เป็นความโศกความร่ำไร ทุกขโทมนัส อุปายาส