เมนู

ป. ถูกแล้ว.
ส. ผู้ใดแสดงฤทธิ์ได้ ผู้นั้นแหละเป็นบุคคล ผู้ใด
แสดงฤทธิ์ไม่ได้ ผู้นั้นไม่ใช่บุคคล หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯ ล ฯ
ส. ผู้ใดฟังเสียงด้วยโสตธาตุเพียงดังทิพย์ได้ ฯ ล ฯ
ผู้ใดรู้จิตคนอื่นได้ ฯลฯ ผู้ใดตามระลึกชาติหนหลังได้ ฯลฯ ผู้ใดเห็นรูป
ด้วยจักษุเพียงดังทิพย์ได้ ฯ ล ฯ ผู้ใดทำให้แจ้งซึ่งความสิ้นไปแห่งอาสาวะ
ได้ ผู้นั้นแหละเป็นบุคคล ผู้ใดทำให้แจ้งซึ่งความสิ้นแห่งอาสาวะไม่ได้
ผู้นั้นไม่ใช่บุคคล หรือ ฯ ล ฯ
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น.
อภิญญานุโยค จบ

อรรถกถาอภิญญานุโยค


ว่าด้วยการซักถามถึงผู้ได้อภิญญา


เบื้องหน้าแต่นี้ไป เป็นการพิสูจน์พระอรหันต์ ด้วยสามารถแห่ง
คำซักถามถึงผู้ได้อภิญญาเป็นต้น. ในปัญหานั้น เมื่อพระสกวาทีตอบ
รับรองคำว่า ใช่แล้ว ปรวาทีผู้มีความสำคัญอยู่ว่า บุคคลผู้บรรลุคุณ
วิเศษมีอิทธิฤทธิ์เป็นต้นไม่มีในอนินทริยพัทธรูปภายนอก มีแต่ภายใน
บุคคล ฉะนั้น บุคคลผู้ให้ฤทธิ์เป็นต้นเกิดขึ้นพึงมี จึงกล่าวคำเป็นต้น
ว่า บุคคลบางคนที่แสดงฤทธิ์ได้มีอยู่มิใช่หรือ คำทั้งหมดนั้น มีเนื้อ
ความง่ายทั้งนั้น แล.
อรรถกถาอภิญญานุโยค จบ

ญาตกานุโยค


[166] ป. ไม่พึงกล่าวว่า หยั่งเห็นบุคคลได้โดยสัจฉิกัตถ-
ปรมัตถะ หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. มารดามีอยู่มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า มารดามีอยู่ ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้อง
กล่าวว่า หยั่งเห็นบุคคลได้โดยสัจฉิกัตถปรมัตถะ.
ป. ไม่พึงกล่าวว่า หยั่งเห็นบุคคลได้โดยสัจฉิกัตถ-
ปรมัตถะ หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. บิดามีอยู่ ฯ ล ฯ พี่น้องชายมีอยู่ พี่น้องหญิงมีอยู่
กษัตริย์มีอยู่ พราหมณ์มีอยู่ แพศย์มีอยู่ ศูทรมีอยู่ คฤหัสถ์มีอยู่ บรรพชิต
มีอยู่ เทวดามีอยู่ มนุษย์มีอยู่ มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า มนุษย์มีอยู่ ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้อง
กล่าวว่า หยั่งเห็นบุคคลได้โดยสัจฉิกัตถปรมัตถะ.
[167] ส. ท่านได้ทำความตกลงแล้วว่ามารดามีอยู่ และ
ด้วยเหตุนั้นจึงหยั่งเห็นบุคคลได้โดยสัจฉิกัตถปรมัตถะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.