เมนู

ทรีย์ สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์
อนัญญตัญญัสสามีตินทรีย์ อัญญินทรีย์ อัญญาตาวินทรีย์ อวิชชา
สังขารเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ผัสสะเพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย
ตัณหาเพราะเวทนาเป็นปัจจัย อุปาทานเพราะตัณหาเป็นปัจจัย กรรม-
ภพเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส
สติปัฏฐาน สัมมัปปธาน อัปปมัญญา อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์
7 อริยมรรคมีองค์ 8 ผัสสะ เจตน อธิโมกข์ มนสิการ เหตุธรรม
เหตุสเหตุกธรรม เหตุเหตุสัมปยุตตธรรม อาสวรรม สัญโญชนธรรม
คันถธรรม โอฆธรรม โยคธรรม นีวรณธรรม ปรามาสธรรม
อุปาทานธรรม กิเลสธรรม กิเลสสังกิเลสิกธรรม กิเลสสังกิลิฏฐ-
ธรรม กิเลสกิเลสสัมปยุตตธรรม
โดยขันธสังคหะ อายตนสังคหะ ธาตุ
สังคหะ ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ได้ด้วยธรรมเหล่านั้น โดยขันธสังคหะ
อายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้น สงเคราะห์ไค้ด้วยขันธ์ อายตนะ
ธาตุ เท่าไร ? ธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์ไดด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1.
จบสังคหิเตนสังคหิตปทนิทเทส

อรรถกถาสังคหิเตนสังคหิตปทนิทเทส


บัดนี้ เพื่อจำแนก สังคหิเตน สังคหิตบท พระผู้มีพระภาคเจ้า จึง
เริ่มคำว่า "สมุทยสจฺเจน" เป็นอาทิ. ในนิทเทสนั้น บทใด นับสงเคราะห์
ได้ด้วยสามารถแห่งขันธ์สงเคราะห์เป็นต้น โดยธรรมมีขันธ์เป็นต้น พระผู้มี
พระภาคเจ้าทรงทำปุจฉา วิสัชนา ซึ่งการสงเคราะห์บทนั้นนั่นแหละ ด้วยขันธ์