เมนู

[48]

โกลังโกลบุคคล

บุคคลชื่อว่า โกลังโกละ เป็นไฉน ?

บุคคลบางคนในโลกนี้ เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์ทั้ง 3
เป็นโสดาบันมีอันไม่ไปเกิดในอบายเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงจะได้ตรัสรู้ใน
เบื้องหน้า บุคคลนั้นจะแล่นไป ท่องเที่ยวไป สู่ตระกูล สอง หรือ สาม ตระกูล
แล้วทำที่สุดทุกข์ได้ บุคคลนี้เรียกว่า โกลังโกละ.

อรรถกถาโกลังโกลบุคคล


วินิจฉัยในนิเทศแห่ง โกลังโกลบุคคล. บุคคลใดย่อมไปจาก
ตระกูลสู่ตระกูล เหตุนั้นผู้นั้นจึงชื่อว่า โกลังโกละ. อธิบายว่า ก็ชื่อว่า การ
เกิดในตระกูลต่ำจำเดิมแต่การกระทำให้แจ้งซึ่งพระโสดาปัตติผลไปแล้ว ย่อม
ไม่มี ท่านย่อมเกิดในตระกูลที่มีโภคะมากอย่างเดียวเท่านั้น.
คำว่า "เทฺว วา ตีณิ วา กุลานิ" ได้แก่ ไปสู่ 2 ภพ หรือ 3 ภพ
ด้วยอำนาจการเกิดเป็นเทวดาและมนุษย์. โกลังโกลบุคคลแม้นี้ พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสแล้วด้วยสามารถแห่งมิสสกภพ คือภพที่ปะปนกันนั่นเทียว. ก็ใน
คำว่า "เทฺว วา ตีณิ วา" สักว่าเป็นเทศนาเท่านั้น. โกลังโกลบุคคลนั่น
แหละ ย่อมท่องเที่ยวไปจนถึงภพที่ 6 จึงกระทำทาง คือ มรรคอันเป็นที่สิ้นสุด
แห่งวัฏฏทุกข์ได้.
จบอรรถกถาโกลังโกลบุคคล

[49]

เอกพีชีบุคคล

บุคคลชื่อว่า โกลังโกละ เป็นไฉน ?

บุคคลบางคนในโลกนี้ เพราะความสิ้นไปรอบแห่งสัญโญชน์ทั้ง 3
อันไม่ไปเกิดในอบายเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงจะได้ตรัสรู้ในเบื้องหน้า บุคคล
นั้นเกิดในภพมนุษย์อีกครั้งเดียว แล้วทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ บุคคลนี้เรียกว่า
เอกพีชี.

อรรถกถาเอกพีชีบุคคล


วินิจฉัยในนิเทศแห่งเอกพีชีบุคคล. ชื่อว่า พืช คือ ขันธ์อันพระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสแล้ว ก็พระโสดาบันองค์ใดมีพืช คือ ขันธ์ครั้งเดียวเท่านั้น
คือมีการถือเอาอัตภาพครั้งเดียว พระโสดาบันนั้นชื่อว่า เอกพีชี. ก็คำว่า
"มานุสฺสกํ ภวํ" นี้สักว่าเป็นเทศนาในที่นี้เท่านั้น. แต่จะกล่าวว่า "ยังเทวภพ
ให้เกิด" ดังนี้บ้างก็สมควรเหมือนกัน ก็ชื่อเหล่านั้นเป็นชื่อแห่งพระอริยบุคคล
เหล่านั้น ด้วยสามารถแห่งชื่อที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถือเอาแล้วนั่นเทียว.
จริงอยู่ พระโสดาบันผู้ไปถึงที่มีประมาณเท่านี้ชื่อว่า สัตตักขัตตุปรมบุคคล
ผู้ไปถึงที่มีประมาณเท่านี้ ชื่อว่า โกลังโกลบุคคล ผู้ไปถึงที่มีประมาณเท่านี้
ชื่อว่า เอกพีชีบุคคล ฉะนั้น ชื่อพระโสดาบันเหล่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงทรงถือเอาแล้ว. แต่ว่า โดยกำหนดแน่นอน (โดยนิยม) คำว่า พระโสดาบัน
รูปนี้เป็น สัตตักขัตตุปรมะ รูปนี้เป็นโกลังโกละ รูปนี้เป็น เอกพีชี ย่อมไม่มี
ถามว่า ก็ใครกำหนดประเภทพระอริยบุคคลเหล่านั้นได้.
วิสัชนาว่า พระเถระบางพวกกล่าวไว้ก่อน ว่า "ปุพฺพเหตุ นิยเมติ"
แปลว่า บุพเหตุ ย่อมกำหนดแน่นอน. บางพวกกล่าวว่า "ปฐมมคฺโค
นยเมติ"
แปลว่า มรรคที่หนึ่ง กำหนดแน่นอน. บางพวกกล่าวว่า "อุปริ-