เมนู

อนึ่ง ธรรมทั้งหลายที่พระตถาคตประกาศแล้ว ผู้นั้นเห็นชัดแล้ว ดำเนินไป
ดีแล้ว ด้วยปัญญา อนึ่ง อาสวะบางอย่างของผู้นั้นก็สิ้นไปแล้ว เพราะเห็น
ด้วยปัญญา แต่มิใช่เหมือนบุคคลผู้เป็นทิฏฐิปัตตะ บุคคลนี้เรียกว่า สัทธาวิมุต

อรรถกถาสัทธาวิมุตตบุคคล


วินิจฉัยในนิเทศแห่ง สัทธาวิมุตตบุคคล. ข้อว่า "โน จ โข ยถา
ทิฏฺฐิปตฺตสฺส"
อธิบายว่า อาสวะทั้งหลายของสัทธาวิมุตตบุคคล เป็นธรรม-
ชาติสิ้นไป มิได้เหมือนกันกับทิฏฐิปัตตบุคคล.
ถามว่า ความต่างกันในการละกิเลสแห่งพระอริยบุคคลทั้งสองนั้น มี
อยู่หรือ ?
ตอบว่า ไม่มี.
ถามว่า ครั้นเมื่อความเป็นอย่างนั้น เพราะเหตุไร สัทธาวิมุตตบุคคล
จึงไม่ถึงทิฏฐิปัตตบุคคล.
ตอบว่า เพราะความแตกต่างกันแห่งธรรมอันท่านพึงบรรลุมีอยู่. ก็
ทิฏฐิปัตตบุคคล ท่านข่มกิเลสได้ด้วยการบรรลุไม่ลำบากเลย สามารถเพื่อข่ม
กิเลสทั้งหลาย โดยไม่ลำบาก ไม่ยาก. แต่สัทธาวิมุตตบุคคล เป็นผู้ลำบาก
อยู่ด้วยความทุกข์ยาก จึงสามารถข่มกิเลสทั้งหลายได้ ฉะนั้น ท่านจึงไม่ถึง
ทิฏฐิปัตติบุคคล.
อีกอย่างหนึ่ง ความแตกต่างกันแม้ด้วยปัญญาของท่านทั้ง 2 นั้นก็มีอยู่
ด้วย. อันวิปัสสนาญาณแห่งมรรค 3 เบื้องบนของทิฏฐิปัตตะเป็นคุณชาติคม,
กล้า, ผ่องใส เป็นไป. วิปัสสนาญาณของสัทธาวิมุตตะ ไม่คม, ไม่กล้า, ไม่
ผ่องใส เป็นไป. แม้เพราะเหตุนั้น ท่านจึงไม่ถึงทิฏฐิปัตตบุคคล.
เหมือนอย่างว่า ชายหนุ่ม 2 คน เมื่อจะแสดงศิลปะ คนหนึ่งมีดาบ
อันคมกล้าอยู่ในมือ คนหนึ่งมีดาบทื่อ ต้นกล้วยเมื่อถูกตัดด้วยดาบสที่คมกล้า