13. ภิกษุผู้ถือการอยู่ในเสนาสนะตามที่ท่านจัดไว้เป็นวัตร 5
จำพวก14. ภิกษุผู้ถืออยู่ป่าช้าเป็นวัตร 5 จำพวกจบปัญจกมาติกาฉักกมาติกา [12] บุคคล 6 จำพวก1. บุคคลบางคนแทงตลอดสัจจะด้วยตนเองในธรรมทั้งหลาย
ที่มิได้สดับแล้วในก่อน ทั้งบรรลุความเป็นสัพพัญญูในธรรมนั้นด้วย
ทั้งถึงความชำนาญในธรรมเป็นกำลังทั้งหลายด้วย.บุคคลบางคนแทงตลอดสัจจะด้วยตนเองในธรรมทั้งหลาย
ที่มิได้สดับแล้วในก่อน แต่มิได้บรรลุความเป็นสัพพญญูในธรรมนั้น
ด้วย ทั้งมิได้ถึงควานชำนาญในธรรมเป็นกำลังทั้งหลายด้วย.บุคคลบางคนไม่แทงตลอดสัจจะด้วยตนเองในธรรมทั้ง
หลายที่มิได้สดับแล้วในก่อน เป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้ในทิฏฐธรรมเทียว
แต่ทั้งบรรลุสาวกบารมีด้วย.บุคคลบางคนไม่แทงตลอดสัจจะด้วยตนเองในธรรมทั้ง
หลายที่มิได้สดับแล้วในก่อน เป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้ในทิฏฐธรรมเทียว
ไม่ได้บรรลุสาวกบารมี.บุคคลบางคนไม่แทงตลอดสัจจะด้วยตนเองในธรรมทั้ง
หลายที่มิได้สดับแล้วในก่อน ทั้งมิได้ทำที่สุดทุกข์ในทิฏฐธรรมเทียว
เป็นอนาคามี ไม่มาแล้วสู่ความเป็นอย่างนี้. บุคคลบางคนไม่แทงตลอดสัจจะด้วยตนเองในธรรมทั้ง
หลายที่มิได้สดับแล้วในก่อน ทั้งไม่ทำที่สุดทุกข์ในทิฏฐธรรมเทียว
เป็นโสดาบัน และสกทาคามี มาแล้วสู่ความเป็นอย่างนี้.จบฉักกมาติกาสัตตกมาติกา [13] บุคคล 7 จำพวกบุคคลเปรียบด้วยคนจมน้ำ 7 เหล่าคือ1. บุคคลจมแล้วคราวเดียว ย่อมจมอยู่นั่นเอง 1บุคคลโผล่ขึ้นมาแล้ว จมลงอีก 1บุคคลโผล่ขึ้นแล้ว หยุดอยู่ 1บุคคลโผล่ขึ้นแล้ว เหลียวมองดู 1บุคคลโผล่ขึ้นแล้ว ว่ายข้ามไป 1บุคคลโผล่ขึ้น และว่ายไปถึงที่ที่ตื้นพอหยั่งถึงแล้ว 1บุคคลโผล่ขึ้นและข้ามไปถึงฝั่งแล้ว เป็นพราหมณ์ยืนอยู่
บนบก 12. บุคคลผู้เป็นอุภโตภาควิมุต 1บุคคลผู้เป็นปัญญาวิมุติ 1บุคคลผู้เป็นกายสักขี 1 |