เมนู

ภิกษุทั้งหลาย ที่อยู่อันประเสริฐ 10 เหล่านั้น คือ พระอริยะทั้งหลาย อาศัยแล้ว
หรือย่อมอาศัย หรือว่า จักอาศัย . . .ใด ดังนี้. จริงอยู่ สูตรนี้ ย่อมส่องซึ่ง
ความที่มรรคเป็นที่อยู่อาศัย เพราะฉะนั้น คำนั้น จึงเป็นคำอันพระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้วนั่นแหละ.
อนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมทรงทราบว่า ธรรมนี้เป็นอาสยะของ
สัตว์ทั้งหลาย และย่อมทรงทราบแม้ในขณะแห่งบุคคลผู้มีความเห็นผิดเหล่านั้น
ว่า ไม่สามารถเพื่อยังวิปัสสนาญาณและมรรคญาณให้เป็นไปด้วย. แม้คำนี้ ก็
ทรงอธิบายไว้ว่า เมื่อบุคคลเสพอยู่ซึ่งกามนั่นแหละ ก็ย่อมทราบว่า บุคคลนี้
ชื่อว่า มีกามเป็นใหญ่ มีกามเป็นอัธยาศัย มีการน้อมไปในกาม ดังนี้ เมื่อ
เสพอยู่ซึ่งเนกขัมมะนั่นแหละ ก็ทราบว่า บุคคลนี้มีเนกขัมมะเป็นใหญ่ มีเนก-
ขัมมะเป็นอัธยาศัย มีการน้อมไปในเนกขัมมะ ดังนี้ เมื่อเสพพยาบาท ฯลฯ
ความไม่พยาบาท ฯลฯ ถีนมิทธะ ฯลฯ เมื่อเสพอยู่ซึ่งอาโลกสัญญานั่นแหละ
ย่อมทราบว่า บุคคลนี้ มีอาโลกสัญญาเป็นใหญ่ มีอาโลกสัญญาเป็นอัธยาศัย
มีการน้อมไปในอาโลกสัญญา ดังนี้.

ว่าด้วยนิทเทสแห่งอนุสัย


พึงทราบในนิทเทสแห่งอนุสัย ดังนี้. ก็ชื่อว่า กามราคานุสัย เพราะ
กามราคะนั้นด้วย เป็นธรรมนอนเนื่องเพราะอรรถว่ายังละไม่ได้ด้วย. แม้ในบท
ที่เหลือทั้งหลายก็นัยนี้. คำว่า ยํ โลเก ปิยรูปํ ได้แก่ รูปใด อันให้ความ
รักเกิดขึ้นในโลกนี้. คำว่า สาตรูปํ ได้แก่ รูปที่ยังความพอใจให้เกิดขึ้นเป็น
อารมณ์ที่น่าปรารถนา มีความพอใจเป็นปทัฏฐาน. ราคานุสัยของสัตว์ทั้งหลาย
ย่อมนอนเนื่องในปิยรูปและสาตรูปนี้ เพราะเหตุนั้น ราคานุสัยจึงชื่อว่า ย่อม