เมนู

ปัญหาปุจฉกะ


[737] ฌาน 4 คือ
1. ภิกษุในศาสนานี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ประกอบด้วยวิตก วิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวก อยู่.
2. บรรลุทุติยฌาน อันเป็นไปในภายใน เป็นธรรมชาติผ่องใส
เพราะวิตกวิจารสงบ เป็นธรรมเอกผุดขึ้นแก่ใจ ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่
ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ อยู่.
3. เพราะคลายปีติได้อีกด้วย จึงเป็นผู้มีจิตเป็นอุเบกขา มีสติสัมป-
ชัญญะอยู่ และเสวยสุขด้วยนามกาย บรรลุตติยฌาน ซึ่งเป็นฌานที่พระอริยเจ้า
ทั้งหลายกล่าวสรรเสริญผู้ได้บรรลุว่า เป็นผู้มีจิตเป็นอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข
ดังนี้ อยู่.
8. บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขและทุกข์ได้
เพราะโสมนัสและโทมนัสดับสนิทในก่อน มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา อยู่.

ติกมาติกาปุจฉา-ทุกมาติกาปุจฉา


บรรดาฌาน 4 ฌานไหนเป็นกุศล ฌานไหนเป็นอกุศล ฌานไหน
เป็นอัพยากตะ ฯลฯ ฌานไหนเป็นสรณะ ฌานไหนเป็นอรณะ ?

ติกมาติกาวิสัชนา


[738] ฌาน 4 เป็นกุศลก็มี เป็นอัพยากตะก็มี.
ฌาน 3 เว้นสุขเวทนาที่เกิดขึ้นในฌานนี้เสีย เป็นสุเวทนาสัมปยุต
จตุตถฌาน เว้นอทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นในฌานนี้เสีย เป็นอทุกขมสุขเวทนา-
สัมปยุต.

ฌาน 4 เป็นวิปากะก็มี เป็นวิปากธัมมธรรมก็มี เป็นเนววิปากน-
วิปากธัมมธรรมก็มี.
ฌาน 4 เป็นอุปาทินนุปาทานิยะก็มี เป็นอนุปาทินนุปาทานิยะก็มี
เป็นอนุปาทินนานุปาทานิยะก็มี.
ฌาน 4 เป็นอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกะก็มี เป็นอสังกิลิฏฐอสังกิเลสิกะก็มี.
ปฐมฌาน เว้นวิตกวิจารที่เกิดขึ้นในฌานนี้เสีย เป็นสวิตักกสวิจาระ,
ฌาน 3 เป็นอวิตักกอวิจาระ.
ฌาน 2 เว้นปีติที่เกิดขึ้นในฌานนี้เสีย เป็นปีติสหคตะ. ฌาน 3
เว้นสุขที่เกิดขึ้นในฌานนี้เสีย เป็นสุขสหคตะ จตุตถฌาน เว้นอุเบกขาที่เกิด
ขึ้นในฌารนี้เสีย เป็นอุเบกขาสหคตะ.
ฌาน 4 เป็นเนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพะ ฌาน 4 เป็นเนวทัสส-
เนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกะ.
ฌาน 4 เป็นอาจยคามีก็มี เป็นอปจยคามีก็มี เป็นเนวาจยคามินา-
ปจยคามีก็มี.
ฌาน 4 เป็นเสกขะก็มิ เป็นอเสกขะก็มี เป็นเนวเสกขานาเสกขะก็มี
ฌาน 4 เป็นมหัคคตะก็มี เป็นอัปปมาณะก็มี.
ฌาน 3 กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นปริตตารัมมณะ แม้เป็นมหัคคตา-
รัมมณะ, เป็นอัปปมาณารัมมณะก็มี กล่าวไม่ได้ว่าเป็นอัปปมาณารัมมณะก็มี,
จตุตถฌาน เป็นปริตตารัมมณะก็มี เป็นมหัคคตารัมมณะก็มี เป็นอัปปมาณา-
รัมมณะก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นปริตตารัมมณะก็มี แม้เป็นมหัคคตารัมมณะก็มี
แม้เป็นอัปปมาณารัมมณะก็มี.
ฌาน 4 เป็นมัชฌิมะก็มี เป็นปณีตะก็มี.

ฌาน 4 เป็นสัมมัตตนิยะก็มี เป็นอนิยตะก็มี, ฌาน 3 ไม่เป็น
มัคคารัมมณะ เป็นมัคคเหตุกะ เป็นมัคคาธิปติ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็น
มัคคเหตุกะ แม้เป็นมัคคาธิปติก็มี จตุตถฌาน เป็นมัคคารัมมณะก็มี เป็น
มัคคเหตุกะก็มี เป็นมัคคาธิปติก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นมัคคารัมมณะ แม้
เป็นมัคคเหตุกะ แม้เป็นมัคคาธิปติก็มี.
ฌาน 4 เป็นอุปปันนะก็มี เป็นอนุปปันนะก็มี เป็นอุปปาทีก็มี.
ฌาน 4 เป็นอตีตะก็มี เป็นอนาคตะก็มี เป็นปัจจุบันก็มี.
ฌาน 3 กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นอตีตารัมมณะ แม้เป็นอนาคตารัมมณะ
แม้เป็นปัจจุปปันนารัมมณะ จตุตถฌาน เป็นอตีตารัมมณะก็มี เป็นอนาคตา-
รัมมณะก็มี เป็นปัจจุปปันนารัมมณะก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นอตีตารัมมณะ
แม้เป็นอนาคตารัมมณะ แม้เป็นปัจจุปปันนารัมมณะก็มี
ฌาน 4 เป็นอัชฌัตตะก็มี เป็นพหิทธาก็มี เป็นอัชฌัตตพหิทธาก็มี
ฌาน 3 เป็นพหิทธารัมมณะ จตุตถฌาน เป็นอัชฌัตตารัมมณะก็มี เป็น
พหิทธารัมมณะก็มี เป็นอัชฌัตตพหิทธารัมมณะก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็น
อัชฌัตตารัมมณะ แม้เป็นพหิทธารัมมณะ แม้เป็นอัชฌัตตพหิทธารัมมณะก็มี.
ฌาน 4 เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆะ.

ทุกมาติกาวิสัชนา


1. เหตุโคจฉกวิสัชนา


[739] ฌาน 4 เป็นเหตุ ฌาน 4 เป็นสเหตุกะ ฌาน 4 เป็น
เหตุสัมปยุต ฌาน 4 กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุสเหตุกะ แต่เป็นสเหตุกนเหตุ
ฌาน 4 กล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุเหตุสัมปยุต แต่เป็นเหตุสัมปยุตตนเหตุ
ฌาน 4 เป็นนเหตุสเหตุกะ.