เมนู

ก็บัณฑิตพึงนับนัยในอภิธรรมภาชนีย์นั้น ด้วยว่าอภิธรรมภาชนีย์นี้
ท่านจำแนกนัยไว้ 4,000 นัย คือ ในมรรคหนึ่ง มี 1,000 นัย (1,000 * 4
= 4,000) สำหรับในการถามและตอบรวมโพชฌงค์แม้ทั้ง 7. สำหรับในการ
แยกวิสัชนาทีละข้อ โพชฌงค์ทั้ง 7 มี 4 หมวด จัดเป็น 28,000 นัย คือ
โพชฌงค์ 7 เป็น 4 ด้วยสามารถแห่งโพชฌงค์แต่ละข้อ. นัยแม้ทั้งหมดนั้น
เป็น 32,000 นัย โดยนับรวมกับ 4 นัยแรก. ในอภิธรรมภาชนีย์ ท่านจำแนก
กุศลทั้งหลายไว้ 32,000 นัยเหมือนกัน. แต่เพราะโพชฌงค์ทั้งหลายย่อมได้
แม้ในขณะแห่งผล คือ โพชฌงค์ทั้งหลายเป็นกุศลเหตุ และเป็นสามัญผล
ฉะนั้น เพื่อแสดงโพชฌงค์แม้ในนัยเหล่านั้น ท่านจึงเริ่มวิปากนัยโดยแบบ
แผนอันเป็นเบื้องต้น คือ กุศลนิทเทสนั่นแหละ. นัยแห่งวิบากแม้นั้น มี 2
อย่างด้วยสามารถแห่งการถามและการตอบรวมกัน และด้วยสามารถแห่งการ
ถามและการตอบแยกกัน. นัยที่เหลือในที่นี้ พึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในหน
หลังนั่นแหละ. สำหรับวิปากนัย บัณฑิตพึงคูณด้วย 3 แต่กุศล แล.
วรรณนาอภิธรรมภาชนีย์ จบ

วรรณนาปัญหาปุจฉกะ


ในปัญหาปุจฉกะ

บัณฑิตพึงทราบ ความที่โพชฌงค์ทั้งหลาย
ที่เป็นกุศลเป็นต้น โดยทำนองแห่งพระบาลีนั่นแหละ. ส่วนในอารัมมณ-
ติกะทั้งหลาย โพชฌงค์แม้ทั้งหมดเหล่านี้ เป็นอัปปมาณารัมมณะเท่านั้น เพราะ
ปรารภพระนิพพานอันเป็นอัปปมาณะเป็นไป ไม่เป็นมัคคารัมมณะ. ก็แต่ว่า
ในอธิการนี้ โพชฌงค์ที่เป็นกุศล เป็นมัคคเหตุกะ ด้วยสามารถแห่งเหตุ.
โพชฌงค์เหล่านั้น เป็นมัคคาธิปติในเวลาเจริญมรรคอันกระทำวิริยะ หรือ

วิมังสาให้เป็นใหญ่. ไม่พึงกล่าวว่า เป็นมัคคาธิปติในการเจริญมรรคอันมีฉันทะ
หรือจิตตะเป็นใหญ่ เพราะฉะนั้น ในขณะแห่งผลก็ไม่พึงกล่าวเช่นกัน. ใน
อตีตะเป็นต้น ก็ไม่พึงกล่าวแม้ด้วยความเป็นเอการัมมณะ. ก็แต่ ชื่อว่า เป็น
พหิทธารัมมณะ เพราะความที่พระนิพพานเป็นพหิทธาธรรม แล. แม้ใน
ปัญหาปุจฉกะนี้ ท่านก็ว่า โพชฌงค์ทั้งหลายเป็นโลกุตตระซึ่งเกิดขึ้นแล้วเหมือน
กัน. แท้จริง โพชฌงค์ซึ่งเป็นโลกิยะ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในนัยที่หนึ่ง
แห่งสุตตันตภาชนีย์ทีเดียว ในนัยที่ 2และที่ 3 ตรัสว่า โพชฌงค์เจือด้วยโลกียะ
และโลกุตตระ. ในนัยที่ 4 แห่งอภิธรรมภาชนีย์ก็ดี และในปัญหาปุจฉกะนี้ก็ดี
ตรัสว่าเป็นโลกุตตระเท่านั้น. แม้สัมโพชฌงค์นี้ พระองค์ก็ทรงนำออกจำแนก
แสดงแล้ว 3 ปริวัฏ ดังพรรณนามาฉะนี้ แล.
วรรณนาปัญหาปุจฉกะ จบ
อรรถกถาโพชฌังควิภังค์ จบ

11. มัคควิภังค์


สุตตันตภาชนีย์


อริยมรรคมีองค์ 8 นัยที่ 1


[569] อริยมรรคมีองค์ 8 คือ
1. สัมมาทิฏฐิ
2. สัมมาสังกัปปะ
3. สัมมาวาจา
4. สัมมากัมมันตะ
5. สัมมาอาชีวะ
6. สัมมาวายามะ
7. สัมมาสติ
8. สัมมาสมาธิ
[570] ในอริยมรรคมีองค์ 8 นั้น สัมมาทิฏฐิ เป็นไฉน ?
ความรู้ในทุกข์ ความรู้ในทุกขสมุทัย ความรู้ในทุกขนิโรธ ความรู้
ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา นี้เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ.
[571] สัมมาสังกัปปะ ป็นไฉน ?
ความดำริในอันออกจากกาม ความดำริในอันไม่พยาบาท ความดำริ
ในอันไม่เบียดเบียน นี้เรียกว่า สัมมาสังกัปปะ.
[572] สัมมาวาจา เป็นไฉน ?
ความงดเว้นจากการพูดเท็จ ความงดเว้นจากการพูดส่อเสียด ความ
งดเว้นจากการพูดหยาบ ความงดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ นี้เรียกว่า สัมมาวาจา.
[573] สัมมากัมมันตะ เป็นไฉน ?
ความงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ความงดเว้นจากการลักทรัพย์ ความ
งดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม นี้เรียกว่า สัมมากัมมันตะ.