เมนู

รูปาวจรวิบากจิต


[413] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน ?
โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงรูปภพ สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน ประกอบด้วยวิตก วิจาร
มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวก มีปฐวีกสิณเป็นอารมณ์ อยู่ในสมัยใด ในสมัย
นั้น ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า กุศล
โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย แล้ว
บรรลุปฐมฌาน อันเป็นวิบาก เพราะรูปาวจรกุศลธรรนอันได้ทำไว้แล้ว ได้
สั่งสมไว้แล้วนั้นแล ประกอบด้วยวิตก วิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวก มี
ปฐวีกสิณเป็นอารมณ์ อยู่ในสมัยใด ในสมัยนั้น สังขารเกิดเพราะกุศลมูล
เป็นปัจจัย วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย นามเกิดเพราะวิญญาณเป็น
ปัจจัย อายตนะที่ 6 เกิดเพราะนามเป็นปัจจัย ผัสสะเกิดเพราะอายตนะที่ 6
เป็นปัจจัย เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย ปสาทะเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย
อธิโมกข์เพราะปสาทะเป็นปัจจัย ภพเกิดเพราะอธิโมกข์เป็นปัจจัย ชาติ
เกิดเพราะภพเป็นปัจจัย ชรามรณะเกิดเพราะชาติเป็นปัจจัย ความเกิดขึ้นแห่ง
กองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้.

อรูปาวจรวิบากจิต


[414] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน ?
โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทา เพื่อเข้าถึงอรูปภพ เพราะก้าว
ล่วงอากิญจัญญายตนะโดยประการทั้งปวง จึงบรรลุจตุตถฌาณ อันสหรคตด้วย