เมนู

ในปวัตติกาลนั้นนั่นแหละ นามที่
เป็นวิบากก็เป็นปัจจัย 4 อย่าง แก่อายตนะ 5
ที่เหลือ แม้นามที่ไม่ใช่วิบาก ก็ทรงประกาศ
ไว้เหมือนอย่างนั้นนั่นแหละ.

จริงอยู่ ในปวัตติกาลนั้นแหละ นามที่เป็นวิบากอาศัยวัตถุมีจักขุ-
ประสาทเป็นต้นบ้าง วัตถุนอกนี้บ้าง เป็นปัจจัย 4 อย่าง แก่อายตนะที่เหลือ 5
มีจักขายตนะเป็นต้น โดยปัจฉาชาตปัจจัย วิปปยุตตปัจจัย อัตถิปัจจัย อวิคต-
ปัจจัย แม้นามที่ไม่ใช่วิบาก ก็ทรงประกาศเหมือนนามที่เป็นวิบากนั่นเอง
เพราะฉะนั้น แม้นามอันต่างด้วยกุศลเป็นต้น ก็พึงทราบว่าเป็นปัจจัย 4 อย่าง
แก่อายตนะ 5 เหล่านั้น นามอย่างเดียว เป็นปัจจัยแก่อายตนะใด ๆ และเป็น
โดยประการใด ในปฏิสนธิกาลหรือในปวัตติกาล พึงทราบอายตนะนั้น ๆ
โดยประการนั้น ๆ อย่างนี้ก่อน.

ว่าด้วยรูปเป็นปัจจัยแก่อายตนะ


ก็ในอายตนะเหล่านี้ รูปไม่เป็นปัจจัย
แม้แก่อายตนะหนึ่งในอรูปภพ แต่เป็นปัจจัย
ในภพที่มีขันธ์ 5 ว่าโดยรูป วัตถุรูปใน
ปฏิสนธิกาลเป็นปัจจัย 6 อย่าง แก่อายตนะ
ที่ 6 ภูตรูปทั้งหลายเป็นปัจจัย 4 อย่าง
แก่อายตนะ โดยไม่แปลกกัน.

จริงอยู่ ว่าโดยรูป วัตถุรูปในปฏิสนธิกาล เป็นปัจจัยแก่อายตนะที่ 6
คือมนายตนะ 6 อย่าง โดยสหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย นิสสยปัจจัย
วิปปยุตตปัจจัย อัตถิปัจจัย อวิตตปัจจัย. ส่วนภูตรูป 4 เป็นปัจจัย 4 อย่าง
แก่อายตนะแม้ทั้ง 5 มีจักขายตนะเป็นต้น โดยสหชาตปัจจัย นิสสยปัจจัย
อัตถิปัจจัย อวิคตปัจจัย ด้วยอำนาจแห่งอายตนะที่เกิดขึ้นนั้น ๆ ทั้งในปฏิสนธิ
กาลและปวัตติกาล โดยไม่แปลกกัน.
ชีวิตรูป เป็นปัจจัย 3 อย่าง แก่วัตถุ
เหล่านี้ และอาหารรูปก็เป็นปัจจัย 3 อย่าง
แก่วัตถุเหล่านั้น ในปวัตติกาล อายตนะ
เหล่านั้น เป็นปัจจัย 6 อย่าง แก่อายตนะที่ 6
วัตถุรูปเป็นปัจจัย 5 อย่าง แก่อายตนะที่ 6
นั้น.

ก็ชีวิตรูป ในปฏิสนธิกาล และปวัตติกาล เป็นปัจจัย 3 อย่าง
แก่วัตถุเหล่านี้ทั้ง 5 มีจักขุเป็นต้น ด้วยอำนาจแห่งอัตถิปัจจัย อวิคตปัจจัย
และอินทริยปัจจัย.
ก็คำว่า และอาหาร คือ และอาหารก็เป็นปัจจัย 3 อย่างนั้นแหละ
ด้วยอำนาจอัตถิปัจจัย อวิตตปัจจัย อาหารปัจจัย ก็อาหารนั้นแลเป็นปัจจัยใน
ปวัตติกาลเท่านั้น มิใช่ในปฏิสนธิกาล ในกายที่มีอาหารซึมซาบของสัตว์ผู้มี
อาหารเลี้ยงชีพเหล่านั้น อนึ่ง อายตนะ 5 มีจักขวายตนะเป็นต้นเหล่านั้น
เป็นปัจจัยในปวัตติกาล มิใช่ในปฏิสนธิกาล แก่มนายตนะอันเป็นอายตนะที่ 6
กล่าวคือจักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ และ

กายวิญญาณ โดยอาการ 6 อย่าง ด้วยอำนาจนิสสยปัจจัย ปุเรชาตปัจจัย
อินทริยปัจจัย วิปปยุตตปัจจัย อัตถิปัจจัย และอวิตตปัจจัย. ส่วนวัตถุรูป
เป็นปัจจัย 5 อย่าง ในปวัตติกาล มิใช่ในปฏิสนธิกาล แก่มนายตนะที่เหลือ
ยกเว้นวิญญาณ 5 นั้นแล ด้วยอำนาจนิสสยปัจจัย ปุเรชาตปัจจัย วิปปยุตต-
ปัจจัย อัตถิปัจจัย และอวิตตปัจจัย รูปอย่างเดียวเป็นปัจจัยแก่อายตนะใด ๆ
ในปฏิสนธิกาล หรือปวัตติกาล และเป็นโดยประการใด พึงทราบโดยประการนั้น
ด้วยประการฉะนี้.

ว่าด้วยนามรูปเป็นปัจจัยแก่อายตะ


ก็นามรูปทั้ง 2 อันใด เป็นปัจจัยแก่
อายตนะใด และโดยประการใด บัณฑิตพึง
ทราบนามรูปแม้นั้นและโดยประการนั้น ใน
ที่ทุกแห่ง.

พึงทราบอย่างไร ? คือในเบื้องต้น นามรูปกล่าวคือนามขันธ์ 3 และ
วัตถุรูปในปฏิสนธิกาลปัญจโวการภพ เป็นปัจจัยแก่สฬายตนะ ด้วยสหชาต-
ปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย นิสสยปัจจัย สัมปยุตตปัจจัย วิปากปัจจัย อัตถิปัจจัย
และอวิคตปัจจัยเป็นต้น.
คำที่กล่าวนี้พอเป็นหัวข้อในข้อว่านามรูปเป็นปัจจัยแก่อายตนะ แต่
บุคคลผู้ฉลาดอาจประกอบเนื้อความทั้งหมด โดยทำนองแห่งคำที่กล่าวแล้ว
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่แสดงความพิสดารไว้ในข้อนี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
นิเทศสฬายตนะมีเพราะนามรูปเป็นปัจจัย จบ