เมนู

ว่าด้วยนามเป็นปัจจัยแก่อายตนะ


บรรดานามรูปที่เป็นปัจจัยนั้น มีอธิบายความดังนี้
ความจริง ว่าโดยการกำหนดอย่างต่ำ
นามอย่างเดียวนั้น เป็นปัจจัย 7 อย่าง แก่
อายตนะที่ 6 ในอรูปภพ ทั้งในปฏิสนธิกาล
และปวัตติกาล.

นามเป็นปัจจัยอย่างไร ? คือ ในปฏิสนธิกาล ว่าโดยกำหนดอย่างต่ำ
ก่อน นามเป็นปัจจัย 7 อย่างแก่อายตนะที่ 6 โดยสหชาตปัจจัย อัญญมัญญ-
ปัจจัย นิสสยปัจจัย สัมปยุตตปัจจัย วิปากปัจจัย อัตถิปัจจัย อวิตตปัจจัย อนึ่ง
ในปฏิสนธิกาลนี้ ก็มีปัจจัยแม้โดยประการอื่นอย่างนี้ คือ นามบางอย่างเป็น
ปัจจัย ด้วยเหตุปัจจัย นามบางอย่างเป็นปัจจัย ด้วยอาหารปัจจัย บัณฑิต
พึงทราบการกำหนดปัจจัยอย่างต่ำและอย่างสูง ด้วยสามารถแห่งปัจจัยมีเหตุ-
ปัจจัยเป็นต้นนั้นเถิด.
แม้ในปวัตติกาล นามคือวิบากเป็นปัจจัยโดยนัยที่กล่าวแล้วเหมือนกัน
แต่นามนอกนี้ซึ่งมิใช่วิบากเป็นปัจจัย 6 อย่าง กำหนดอย่างต่ำเว้นวิปากปัจจัย
ในบรรดาปัจจัยทั้งหลายตามที่กล่าวแล้ว และในปวัตติกาลนั้น ก็มีปัจจัยแม้โดย
ประการอื่นอย่างนี้ คือ นามบางอย่างเป็นปัจจัยด้วยเหตุปัจจัย นามบางอย่าง
เป็นปัจจัยด้วยอาหารปัจจัย บัณฑิตพึงกำหนดอย่างสูงและอย่างต่ำด้วยอำนาจ
แห่งปัจจัยมีเหตุปัจจัยเป็นต้นนั้น.
แม้ในภพอื่น นามเป็นปัจจัยแก่
อายตนะที่ 6 ในปฏิสนธิกาลเหมือนอย่างนั้น

แหละ นามนั้นยังเป็นปัจจัยโดยอาการ 6
อย่าง แก่อายตนะทั้งหลายนอกจากอายตนะ
ที่ 6 นี้.

จริงอยู่ แม้ในภพอื่นนอกจากรูปภพ คือในปัญจโวการภพ นามที่
เป็นวิบากนั้น เป็นสหายของหทยวัตถุเป็นปัจจัย 7 อย่าง แก่อายตนะที่ 6 คือ
มนายตนะ โดยกำหนดอย่างต่ำเหมือนกล่าวไว้ในอรูปภูมินั้นแหล่ะ อนึ่ง นาม
นั้น เป็นสหายกับหาภูตรูป 6 เป็นปัจจัยแก่อายตนะ 5 มีจักขายตนะเป็นต้น
นอกจากอายตนะที่ 6 เป็นโดยอาการ 6 อย่าง ด้วยอำนาจแห่งสหชาตปัจจัย
นิสสยปัจจัย วิปากปัจจัย วิปปยุตตปัจจัย อัตถิปัจจัย อวิคตปัจจัย ก็ใน
ปฏิสนธิกาลนี้ มีปัจจัยแม้อื่นอย่างนี้ คือ นามบางอย่างเป็นปัจจัยด้วยเหตุปัจจัย
นามบางอย่างเป็นปัจจัยด้วยอาหารปัจจัย บัณฑิตพึงทราบกำหนดอย่างสูงแล.
อย่างต่ำ ด้วยสามารถแห่งเหตุปัจจัยเป็นต้นนั้น.
แม้ในปวัตติกาล นามที่เป็นวิบากก็
เป็นปัจจัย แก่อายตนะที่เป็นวิบากเหมือนกัน
นามที่ไม่ใช่วิบากก็เป็นปัจจัย 6 อย่าง แก่
อายตนะที่ 6 ซึ่งมิใช่วิบาก.

จริงอยู่ แม้ในปวัตติกาล ในปัญจโวการภพ นามที่เป็นวิบากก็เป็น
ปัจจัยแก่วิบาก คืออายตนะที่ 6 โดยกำหนดอย่างต่ำ 7 ปัจจัย เหมือนใน
ปฏิสนธิกาลนั่นแหละ ส่วนนามที่มิใช่วิบากเป็นปัจจัยแก่นามที่ไม่ใช่วิบาก คือ
อายตนะที่ 6 โดยกำหนดอย่างต่ำ 6 อย่าง โดยนำวิปากปัจจัยออกจากปัจจัย
ทั้ง 7 นั้น และในปวัตติกาลนี้ ก็พึงทราบกำหนดอย่างสูงและอย่างต่ำโดยนัย
ที่กล่าวแล้วเหมือนกัน.

ในปวัตติกาลนั้นนั่นแหละ นามที่
เป็นวิบากก็เป็นปัจจัย 4 อย่าง แก่อายตนะ 5
ที่เหลือ แม้นามที่ไม่ใช่วิบาก ก็ทรงประกาศ
ไว้เหมือนอย่างนั้นนั่นแหละ.

จริงอยู่ ในปวัตติกาลนั้นแหละ นามที่เป็นวิบากอาศัยวัตถุมีจักขุ-
ประสาทเป็นต้นบ้าง วัตถุนอกนี้บ้าง เป็นปัจจัย 4 อย่าง แก่อายตนะที่เหลือ 5
มีจักขายตนะเป็นต้น โดยปัจฉาชาตปัจจัย วิปปยุตตปัจจัย อัตถิปัจจัย อวิคต-
ปัจจัย แม้นามที่ไม่ใช่วิบาก ก็ทรงประกาศเหมือนนามที่เป็นวิบากนั่นเอง
เพราะฉะนั้น แม้นามอันต่างด้วยกุศลเป็นต้น ก็พึงทราบว่าเป็นปัจจัย 4 อย่าง
แก่อายตนะ 5 เหล่านั้น นามอย่างเดียว เป็นปัจจัยแก่อายตนะใด ๆ และเป็น
โดยประการใด ในปฏิสนธิกาลหรือในปวัตติกาล พึงทราบอายตนะนั้น ๆ
โดยประการนั้น ๆ อย่างนี้ก่อน.

ว่าด้วยรูปเป็นปัจจัยแก่อายตนะ


ก็ในอายตนะเหล่านี้ รูปไม่เป็นปัจจัย
แม้แก่อายตนะหนึ่งในอรูปภพ แต่เป็นปัจจัย
ในภพที่มีขันธ์ 5 ว่าโดยรูป วัตถุรูปใน
ปฏิสนธิกาลเป็นปัจจัย 6 อย่าง แก่อายตนะ
ที่ 6 ภูตรูปทั้งหลายเป็นปัจจัย 4 อย่าง
แก่อายตนะ โดยไม่แปลกกัน.