เมนู

ชัดแล้ว ก็ยังเป็นอยู่ได้ฉะนั้น. พึงทราบวินิจฉัยในอธิการนี้ โดยความเป็นไป
ในฐานะทั้งหลายมีภพเป็นต้นทั้งปวง ด้วยประการฉะนี้.

ว่าด้วยวินิจฉัยโดยสงเคราะห์


ก็ในข้อว่า โดยสงเคราะห์ นี้อธิบายว่า บัณฑิตพึงสงเคราะห์
โดยสรุปเสสนัยแห่เอกเทศอย่างนี้ว่า นามอย่างเดียวเกิดเพราะวิญญาณเป็น
ปัจจัยในปวัตติกาลและปฏิสนธิกาลในอรูปภพ และในปวัตติกาล ในปัญจ
โวการภพอันใด และรูปอย่างเดียวเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ในปฏิสนธิ
กาลและปวัตติกาลทั้งหมดในพวกอสัญญีภพ และในปวัตติกาลในปัญจ
โวการภพ อันใด และนามรูปที่เกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัยในกาลทั้งหมดใน
ปัญจโวการภพ อันใด นามด้วย รูปด้วย นามรูปด้วย ทั้งหมดนั้น ชื่อว่า
นามรูปดังนี้ แล้วทราบว่า นามรูปเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย.
หากมีผู้สงสัย ถามว่า เพราะความที่อสัญญีสัตว์ไม่มีวิญญาณ วิญญาณ
จึงไม่ควรหรือ.
ตอบว่า ไม่ควร หามิได้.
จริงอยู่ วิญญาณนี้ ( ท่านกล่าวไว้ว่า)
นามรูปสฺส ยํ เหตุ วิญฺญาณนฺตํ ทฺวิธา มตํ
วิปากมวิปากญฺจ ยุตฺตเมว ตโต อิทํ

วิญญาณนั้น เป็นเหตุแห่งนามรูป
วิญญาณนั้นท่านกล่าวไว้ 2 อย่าง คือ วิญญาณ
ที่เป็นวิบาก และวิญญาณที่ไม่เป็นวิบาก
วิญญาณนี้ จึงควรเป็นปัจจัยแก่รูปใน
อสัญญีภพนั้นทีเดียว.