เมนู

ว่าด้วยอปุญญาภิสังขารเป็นปัจจัย


อปุญญาภิสังขาร จำแนกโดยอกุศลเจตนา 12 ดวง เป็นปัจจัยใน
ปฏิสนธิกาล ไม่เป็นปัจจัยในปวัตติกาล แก่วิญญาณ 1 ดวง ในกามภพทุคติ-
ภูมิเหมือนกันนั่นแหละ เป็นปัจจัยในปวัตติ ไม่เป็นปัจจัยในปฏิสนธิกาล แก่
วิญญาณ 6 ดวง เป็นปัจจัยทั้งในปวัตติกาล และปฏิสนธิกาลเหมือนอย่างนั้น
แหละแก่อกุศลวิปากวิญญาณ 7 ดวง แต่ในกามภพสุคติภูมิ เป็นปัจจัยในปวัต-
ติกาล ไม่เป็นปัจจัยในปฏิสนธิกาลแก่อกุศลวิปากวิญญาณ 7 ดวงเหล่านั้น
เหมือนกันนั่นแหละ เป็นปัจจัยในปวัตติกาล ไม่เป็นปัจจัยในปฏิสนธิกาล อย่าง
นั้นแหละแก่วิญญาณ 4 ดวง ในรูปภพ. ก็อปุญญาภิสังขารนั้นแล เป็นปัจจัย
แก่วิญญาณในกามาพจร ด้วยอำนาจการเห็นรูป ฟังเสียงอันไม่น่าปรารถนา
เป็นต้น แต่ในพรหมโลก ชื่อว่า รูปเป็นต้นที่ไม่น่าปารถนา มิได้มี.
แม้ในเทวโลกกามาพจรก็ไม่มีรูปเป็นต้น ที่ไม่น่าปรารถนาเหมือนกัน.

ว่าด้วยอาเนญชาภิสังขารเป็นปัจจัย


ก็อาเนญชาภิสังขารเป็นปัจจัยเหมือนกันนั่นแหละแก่วิปากวิญญาณ 4
ดวงทั้งในปวัตติกาล ทั้งในปฏิสนธิกาล ในอรูปภพ.

ว่าด้วยกายสังขาร 20 ดวงเป็นปัจจัย*


อนึ่ง ว่าโดยกุศลและอกุศลในกามาพจร กายสังขารจำแนกโดยเจตนา
ทั้ง 20 ดวง โดยสัพพังคาหิกนัย เป็นปัจจัย 2 อย่าง คือด้วยกรรมปัจจัยที่
* ได้แก่ มหากุศลเจตนา 8 ดวง อกุศลเจตนา 12 ดวง

เกิดต่างขณะกัน และด้วยอุปนิสสยปัจจัย ในปฏิสนธิกาล แก่วิปากวิญญาณ 10
ดวง ในกามภพ กายสังขารนั้นนั่นแหละ เป็นปัจจัยอย่างนั้นเหมือนกันใน
ปวัตติกาล มิใช่ในปฏิสนธิกาล แก่วิปากวิญญาณ 13 ดวง ในกามภพ แก่
วิปากวิญญาณ 9 ดวง ในรูปภพ. กายสังขารนั้นนั่นแหละ เป็นปัจจัยเหมือน
อย่างนั้นทั้งในปวัตติกาล ทั้งในปฏิสนธิกาล แก่วิปากวิญญาณ 23 ดวง ใน
กามภพ. แม้ในวจีสังขาร ก็นัยนี้เหมือนกัน.

ว่าด้วยจิตตสังขาร 19 ดวง เป็นปัจจัย


ส่วนจิตตสังขารที่จำแนกด้วยเจตนา 19 ดวง เป็นปัจจัยเหมือนอย่าง
นั้น แหละในปฏิสนธิกาล มิใช่ในปวัตติกาล แก่วิปากวิญญาณ 19 ดวงในภพ
ทั้ง 3 จิตตสังขารนั้นแหละ เป็นปัจจัยในปวัตติกาลมิใช่ปฏิสนธิกาล แก่วิปาก
วิญญาณ 22 ดวง คือ แก่วิปากวิญญาณ 13 ดวง ในกามภพ และแก่วิปาก-
วิญญาณ 9 ดวง ในรูปภพ ตามที่กล่าวมาแล้วในภพทั้งสอง อนึ่ง จิตตสังขาร
นั้น เป็นปัจจัยอย่างนั้นแหละทิ้งในปวัตติกาล และปฏิสนธิกาล แก่วิปาก
วิญญาณ 32 ดวง ในภพ 3
บัณฑิตพึงเข้าใจสังขารเหล่านั้นว่า เป็นปัจจัยแก่วิญญาณเหล่าใดและ
เป็นปัจจัยโดยประการใดนั้น ด้วยอำนาจแห่งปฏิสนธิกาล และปวัตติกาลใน
ภพทั้งหลายอย่างนี้ก่อน. แม้ในกำเนิด เป็นต้นก็พึงทราบโดยนัยนี้เหมือนกัน

ว่าด้วยสังขารเป็นปัจจัยแก่วิญญาณ


ในนิเทศแห่งสังขารเป็นปัจจัยแก่วิญญาณนั้น คำที่ประกาศพอเป็นหัว
ข้อตั้งแต่ต้น มีดังนี้ ก็บรรดาสังขารเหล่านี้ ปุญญาภิสังขาร อำนวยปฏิสนธิ