เมนู

พวกเทพชั้นดาวดึงส์ จึงชื่อว่า ประณีต. ฯลฯ ก็รูปของพวกเทพชั้นอกนิษฐ์
ชื่อว่า ประณีตถึงที่สุด.

ว่าด้วยนิเทสแห่งทูรทุกรูป


พึงทราบวินิจฉัยในนิทเทสแห่งรูปทูรทุกะ (รูปไกลรูปใกล้) ต่อไป.
รูปที่เป็นอิตถินทรีย์เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงจำแนกไว้ในหน
หลังนั่นแหละ แต่ในทุกะนี้ ตรัสสุขุมรูป (รูปละเอียด) ว่าเป็นทูเรรูป (รูป
ไกล) เพราะเป็นรูปที่มีลักษณะเข้าใจได้ยาก ด้วยอรรถว่ากำหนดเป็นอารมณ์
ได้ยาก ตรัสโอฬาริกรูป (รูปหยาบ) ว่าเป็นสันติเกรูป (รูปใกล้) เพราะเป็น
รูปที่มีลักษณะเข้าใจได้ง่าย ด้วยอรรถว่ากำหนดเป็นอารมณ์ได้ง่าย. พระผู้มี
พระภาคเจ้ามิได้ทรงประกอบว่า รูปนี้ เรียกว่ารูปไกล แม้ในที่ทรงประกอบ
อันมีกวฬิงการาหารเป็นที่สุดนั่นแหละ เพราะเหตุไร เพราะชื่อว่า รูปไกลมี
2 อย่าง คือ ไกลโดยลักษณะ และ ไกลโดยโอกาส.
ในรูปไกลทั้ง 2 นั้น มิได้ตรัสคำว่า รูปไกล ไว้โดยลักษณะ
แต่ตรัสรูปไกลนั้นไว้โดยโอกาส เพราะฉะนั้น จึงไม่ตรัสว่า รูปไกลไว้ พระ
ผู้มีพระภาคเจ้ามิได้ทรงประสงค์จะแสดงโอฬาริกรูปว่าเป็นรูปไกลโดยโอกาสจึง
ตรัสคำมีอาทิว่า ยํ วา ปนญฺญํปิ (ก็หรือว่า รูปแม้อื่นใดมีอยู่). แม้ในนิเทศ
แห่งสันติกบท ก็มีนัยนี้แหละ.
ในพระบาลีนั้น บทว่า อนาสนฺเน แยกบทเป็น น อาสนฺเน ได้
แก่ ในที่ไม่ใกล้เคียง. บทว่า อนุปกฏฺเฐ แปลว่า ในที่ไม่ใกล้ชิด. บทว่า
ทูเร แปลว่า ในที่ไกล. บทว่า อสนฺติเก แปลว่า ในที่ไม่ใช่ใกล้. บทว่า
อิทํ วุจฺจติ รูปํ ทูเร (นี้เรียกว่ารูปไกล) นี้ ตรัสสุขุมรูป 15 อย่าง เรียกว่า