เมนู

ภายนอกอันใด) นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดปฐวีธาตุแม้ทั้ง 2 โดย
ลักษณะว่าเป็นปฐวีธาตุอันเดียวเท่านั้น เพราะอรรถว่าเป็นธรรมชาติแข็ง ดังนี้.

นิเทศอาโปธาตุภายใน


ในนิเทศอาโปธาตุเป็นต้น พึงทราบโดยนัยที่กล่าวในหันหลังนั่นแหละ.
พึงทราบวินิจฉัยในคำว่า อาโป อาโปคตํ (ควานเอิบอาบ ธรรมชาติที่
เอิบอาบ) ดังนี้เป็นต้น ที่ชื่อว่า อาโป (ความเอิบอาบ) ด้วยอำนาจความ
เกาะกุม คำว่า อาโป นั้นนั่นแหละ ทีชื่อว่า อาโปคตํ (ธรรมชาติที่เอิบอาบ)
เพราะตามที่อาโปธาตุน้ำนั้นนั่นแหละ ถึงความเป็นสภาพแห่งอาโป. ที่ชื่อว่า
สิเนโห (ความเหนียว) ด้วยอำนาจแห่งสิเนหา ความสิเนหานั้นนั่นแหละ.
ชื่อว่า สิเนหคตํ (ธรรมชาติที่เหนียว) เพราะถึงสภาพแห่งความเหนียว.
บทว่า พนฺนตฺตํ รูปสฺส (ธรรมชาติที่เกาะกุมรูป) ได้แก่
เครื่องผูกของอวินิโภครูป (รูปที่แยกออกไม่ได้ 8 รูป). แม้คำว่า ปีตฺตํ
(น้ำดี) เสมฺหํ (เสลด) เป็นต้น พระโยคีพึงมนสิการด้วยอำนาจแห่งความ
เป็นธาตุนั้นแหละ โดยกำหนดถือเอาด้วยสามารถแห่งสี สัณฐาน ทิศ โอกาส
และปริจเฉท.

ว่าด้วยวิธีมนสิการ ปิตฺตํ (น้ำดี)


ในอธิการแห่งอาโปธาตุนั้น มีนัยดังต่อไปนี้
ก็บรรดาน้ำดีทั้งหลาย น้ำดีที่ไม่อยู่ในถุง (อพทฺธปิตฺตํ) ตั้งอยู่
ซึมซาบสรีระทั้งสิ้นอันเนื่องด้วยชีวิตินทรีย์ น้ำดีที่อยู่ในถุง (พทฺธปิตฺตํ)
ตั้งอยู่ในถุงของน้ำดี. บรรดาน้ำดีทั้ง 2 เหล่านั้น พระโยคีพึงมนสิการว่า

เมื่อมีน้ำมันซึมซาบขนมตั้งอยู่ ขนมย่อมไม่รู้ว่า น้ำมันซึมซาบเราตั้งอยู่
แม้น้ำมันก็ไม่รู้ว่า เราซึมซาบขนมตั้งอยู่ ดังนี้ ฉันใด สรีระก็ฉันนั้น
เหมือนกัน ย่อมไม่รู้ว่า น้ำดีที่ไม่อยู่ในถุงซึมซาบเราตั้งอยู่ แม้น้ำดีที่
ไม่อยู่ในถุงเล่าก็ไม่รู้ว่า เราซึมซาบสรีระตั้งอยู่ ดังนี้ และเหมือนรังบวบขม
ที่เต็มด้วยน้ำฝน รังบวบขมย่อมไม่รู้ว่า น้ำฝนตั้งอยู่ในเรา แม้น้ำฝนก็ย่อม
ไม่รู้ว่า เราตั้งอยู่ในรังบวบขม ดังนี้ ฉันใด ถุงน้ำดีก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ย่อมไม่รู้ว่า น้ำดีในถุงตั้งอยู่ในเรา แม้น้ำดีในถุงก็ไม่รู้ว่า เราตั้งอยู่ใน
ถุงของน้ำดี
ดังนี้ ธรรมเหล่านี้เว้นจากความคิดและพิจารณาซึ่งกันและกัน
เพราะฉะนั้น ขึ้นชื่อว่า น้ำดีที่เป็นโกฏฐาสหนึ่งโดยเฉพาะในสรีระนี้ ไม่มี
เจตนา เป็นอัพยากตะ เป็นของสูญ ไม่ใช่สัตว์ เป็นธรรมชาติเหลว มีอาการ
เกาะกุม ชื่อว่า อาโปธาตุ ดังนี้.

ว่าด้วยวิธีมนสิการ เสมฺหํ (เสลด)


เสมหํ เสลด

มีประมาณเต็มกอบหนึ่งตั้งอยู่ที่เยื่อบุท้อง ในเสลดนั้น
พระโยคีพึงมนสิการว่า เมื่อบ่อน้ำคลำมีแผ่นฝาฟองขึ้นเบื้องบนมีอยู่ บ่อน้ำคลำ
ย่อมไม่รู้ว่า แผ่นฝาฟองตั้งอยู่ในเรา แม้แผ่นฝาฟองก็ไม่รู้ว่า เราตั้งอยู่
ในบ่อน้ำคลำ
ดังนี้ ฉันใด เยื่อบุท้องก็ฉันนั้น เหมือนกัน ย่อมไม่รู้ว่า
เสลดตั้งอยู่ในเรา แม้เสลดเล่าก็ไม่รู้ว่า เราตั้งอยู่ในเยื่อบุท้อง ดังนี้
ธรรมเหล่านี้เว้นจากความคิดและพิจารณาซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้น ขึ้นชื่อว่า
เสลดที่เป็นโกฏฐาสหนึ่งโดยเฉพาะในสรีระนี้ ไม่มีเจตนา เป็นอัพยากตะ
เป็นของสูญ ไม่ใช่สัตว์ เป็นธรรมชาติเหลว มีอาการเกาะกุม ชื่อว่า อาโปธาตุ
ดังนี้.