คือ สังขารขันธ์เป็นสุขเวทนาสัมปยุต เป็นทุกขเวทนาสัมปยุต เป็นอทุกขม-
สุขเวทนาสัมปยุต ฯลฯ สังขารขันธ์เป็นอัชฌัตตารัมมณะ เป็นพหิทธารัมมณะ
เป็นอัชฌัตตพหิทธารัมมณะ ฯลฯ สังขารขันธ์หมวดละ 10 ด้วยประการฉะนี้.
สังขารขันธ์หมวดละ 1 คือ สังขารขันธ์เป็นจิตตสัมปยุต. สังขารขันธ์
หมวดละ 2 คือ สังขารขันธ์เป็นมรณะ เป็นอรณะ. สังขารขันธ์หมวดละ 3
คือ สังขารขันธ์เป็นสุขเวทนาสัมปยุต เป็นทุกขเวทนาสัมปยุต เป็นอทุกขม-
สุขเวทนาสัมปยุต ฯลฯ สังขารขันธ์เป็นอัชฌัตตารัมมณะ เป็นพหิทธารัมมณะ
เป็นอัชฌัตตพหิทธารัมมณะ ฯลฯ สังขารขันธ์หมวดละ 10 ด้วยประการฉะนี้.
ติกมูลกวาร จบ

[อุภโตวัฑฒกวาร]

[69] สังขารขันธ์หมวดละ 1 คือ สังขารขันธ์เป็นจิตตสัมปยุต.
สังขารขันธ์หมวดละ 2 คือ สังขารขันธ์เป็นเหตุ เป็นนเหตุ. สังขารขันธ์
หมวดละ 3 คือ สังขารขันธ์เป็นกุศล เป็นอกุศล เป็นอัพยากฤต ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ 10 ด้วยประการฉะนี้.
สังขารขันธ์หมวดละ 1 คือ สังขารขันธ์เป็นจิตตสัมปยุต. สังขารขันธ์
หมวดละ 2 คือ สังขารขันธ์เป็นสเหตุกะ เป็นอเหตุกะ. สังขารขันธ์หมวดละ
3 คือ สังขารขันธ์เป็นสุขเวทนาสัมปยุต เป็นทุกขเวทนาสัมปยุต เป็นอทุก-
ขมสุขเวทนาสัมปยุต ฯลฯ สังขารขันธ์หมวดละ 10 ด้วยประการฉะนี้.
สังขารขันธ์หมวดละ 1 คือ สังขารขันธ์เป็นจิตตสัมปยุต. สังขารขันธ์
หมวดละ 2 คือ สังขารขันธ์เป็นเหตุสัมปยุต เป็นเหตุวิปปยุต. สังขารขันธ์
หมวดละ 3 คือ สังขารขันธ์เป็นวิบาก เป็นวิปากธัมมธรรม เป็นเนววิปาก-
นวิปากธัมมธรรม ฯลฯ สังขารขันธ์หมวดละ 10 ด้วยประการฉะนี้.