เมนู

สังขารขันธ์


สังขารขันธ์

เป็นไฉน ?

[กุศลมูลกวาร]


[68] สังขารขันธ์หมวดละ 1 คือ สังขารขันธ์เป็นจิตตสัมปยุต.
สังขารขันธ์หมวดละ 2 คือ สังขารขันธ์เป็นเหตุ เป็นนเหตุ.
สังขารขันธ์หมวดละ 3 คือ สังขารขันธ์เป็นกุศล เป็นอกุศล เป็น
อัพยากฤต.
สังขารขันธ์หมวดละ 4 คือ สังขารขันธ์เป็นกามาวจร เป็นรูปาวจร
เป็นอรูปาวจร เป็นอปริยาปันนะ.
สังขารขันธ์หมวดละ 5 คือ สังขารขันธ์เป็นสุขินทริยสัมปยุต เป็น
ทุกขินทริยสัมปยุต เป็นโสมนัสสินทริยสัมปยุต เป็นโทมนัสสินทริยสัมปยุต
เป็นอุเปกขินทริยสัมปยุต.
สังขารขันธ์หมวดละ 6 คือ จักขุสัมผัสสชาเจตนา โสตสัมผัสสชา-
เจตนา ฆานสัมผัสสชาเจตนา ชิวหาสัมผัสสชาเจตนา กายสัมผัสสชาเจตนา
มโนสัมผัสสชาเจตนา สังขารขันธ์หมวดละ 6 ด้วยประการฉะนี้.
สังขารขันธ์หมวดละ 7 คือ จักขุสัมผัสสชาเจตนา ฯลฯ กายสัมผัสสชา-
เจตนา มโนธาตุสัมผัสสชาเจตนา มโนวิญญาณธาตุสัมผัสสชาเจตนา สังขารขันธ์
หมวดละ 7 ด้วยประการฉะนี้.
สังขารขันธ์หมวดละ 8 คือ จักขุสัมผัสสชาเจตนา ฯลฯ สุขสหคตกาย-
สัมผัสสชาเจตนา ทุกขสหคตกายสัมผัสสชาเจตนา มโนธาตุสัมผัสสชาเจตนา
มโนวิญาณธาตุสัมผัสสชาเจตนา สังขารขันธ์หมวดละ 8 ด้วยประการฉะนี้.

สังขารขันธ์หมวดละ 9 คือ จักขุสัมผัสสชาเจตนา ฯลฯ มโนธาตุ-
สัมผัสสชาเจตนา กุสลมโนวิญญาณธาตุสัมผัสสชาเจตนา อกุสลมโนวิญญาณ-
ธาตุสัมผัสสชาเจตนา อัพยากตมโนวิญญาณธาตุสัมผัสสชาเจตนา สังขารขันธ์
หมวดละ 9 ด้วยประการฉะนี้.
สังขารขันธ์หมวดละ 10 คือ จักขุสัมผัสสชาเจตนา ฯลฯ สุขสหคต-
กายสัมผัสสชาเจตนา ทุกขสหคตกายสัมผัสสชาเจตนา มโนธาตุสัมผัสสชาเจตนา
กุสลมโนวิญญาณธาตุสัมผัสสชาเจตนา อกุสลมโนวิญญาณธาตุสัมผัสสชาเจตนา
อัพยากตมโนวิญญาณธาตุสัมผัสสชาเจตนา สังขารขันธ์หมวดละ 10 ด้วย
ประการฉะนี้.
[65] สังขารขันธ์หมวดละ 1 คือ สังขารขันธ์เป็นจิตตสัมปยุต.
สังขารขันธ์หมวดละ 2 คือ สังขารขันธ์เป็นเหตุ เป็นนเหตุ. สังขารขันธ์
หมวดละ 3 คือ สังขารขันธ์เป็นสุขเวทนาสัมปยุต เป็นทุกขเวทนาสัมปยุต
เป็นอทุกขมสุขเวทนาสัมปยุต สังขารขันธ์เป็นวิบาก เป็นวิปากธัมมธรรม
เป็นเนววิปากนวิปากธัมมธรรม สังขารขันธ์เป็นอุปาทินนุปาทานิยะ เป็น
อนุปาทินนุปาทานิยะ เป็นอนุปาทินนานุปาทานิยะ สังขารขันธ์เป็นสังกิลิฏฐ-
สังกิเลสิกะ เป็นอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกะ เป็นอสังกิลิฏฐาสังกิเลสิกะ สังขารขันธ์
เป็นสวิตักกสวิจาระ เป็นอวิตักกวิจารมัตตะ เป็นอวิตักกาวิจาระ สังขารขันธ์
เป็นปีติสหคตะ เป็นสุขสหคตะ เป็นอุเปกขาสหคตะ สังขารขันธ์เป็นทัสสน-
ปหาตัพพะ เป็นภาวนาปหาตัพพะ เป็นเนวทัสสนนภาวนาปหาตัพพะ สังขารขันธ์
เป็นทัสสนปหาตัพพเหตุกะ เป็นภาวหาปหาตัพพเหตุกะ เป็นเนวทัสสนนภาว-
นาปหาตัพพเหตุกะ สังขารขันธ์เป็นอาจยคามี เป็นอปยคามี เป็นเนวาจยคามิ-
นาปจยคามี สังขารขันธ์เป็นเสกะ เป็นอเสกขะ เป็นเนวเสกขนาเสกขะ

สังขารขันธ์เป็นปริตตะ เป็นมหัคคตะ เป็นอัปปมาณะ สังขารขันธ์เป็น
ปริตตารัมมณะ เป็นมหัคคตารัมมณะ เป็นอัปปมาณารัมมณะ สังขารขันธ์
เป็นหีนะเป็นมัชฌิมะ เป็นปณีตะ สังขารขันธ์เป็นมิจฉัตตนิยตะ เป็นสัมมัตต-
นิยตะ เป็นอนิยตะ สังขารขันธ์เป็นมัคคารัมมณะ เป็นมัคคเหตุกะ เป็น
มัคคาธิปติ สังขารขันธ์เป็นอุปปันนะ เป็นอนุปปันนะ เป็นอุปปาที สังขารขันธ์
เป็นอดีต เป็นอนาคต เป็นปัจจุบัน สังขารขันธ์เป็นอตีตารัมมณะ เป็น
อนาคตารัมมณะ เป็นปัจจุปปันนารัมมณะ สังขารขันธ์เป็นอัชฌัตตะ เป็น
พหิทธา เป็นอัชฌัตตพหิทธา สังขารขันธ์เป็นอัชฌัตตารัมมณะ เป็นพหิทธา
รัมมณะ เป็นอัชฌัตตพหิทธารัมมณะ ฯลฯ สังขารขันธ์หมวดละ 10 ด้วย
ประการฉะนี้.
[66] สังขารขันธ์หมวดละ 1 คือ สังขารขันธ์เป็นจิตตสัมปยุต
สังขารขันธ์หมวดละ 2 คือ สังขารขันธ์เป็นสเหตุกะ เป็นอเหตุกะ สังขารขันธ์
เป็นเหตุสัมปยุต เป็นเหตุวิปปยุต สังขารขันธ์เป็นเหตุสเหตุกะ เป็นสเหตุก-
นเหตุ สังขารขันธ์เป็นเหตุเหตุสัมปยุต เป็นเหตุสัมปยุตตนเหตุ สังขารขันธ์
เป็นนเหตุสเหตุกะ เป็นนเหตุอเหตุกะ สังขารขันธ์เป็นโลกิยะ เป็นโลกุตระ
สังขารขันธ์เป็นเกนจิวิญเญยยะ เป็นเกนจินวิญเญยยะ สังขารขันธ์เป็นอาสวะ
เป็นโนอาสวะ สังขารขันธ์เป็นสาสวะ เป็นอนาสวะ สังขารขันธ์เป็นอาสว-
สัมปยุต เป็นอาสววิปปยุต สังขารขันธ์เป็นอาสวสาสวะ เป็นสาสวโนอาสวะ
สังขารขันธ์เป็นอาสวอาสวสัมปยุต เป็นอาสวสัมปยุตตโนอาสวะ สังขารขันธ์
เป็นอาสววิปปยุตตสาสวะ เป็นอาสววิปปยุตตอนาสวะ สังขารขันธ์เป็นสัญ-
โญชนะ เป็นโนสัญโญชนะ สังขารขันธ์เป็นสัญโญชนิยะ เป็นอสัญโญชนิยะ
สังขารขันธ์เป็นสัญโญชนสัมปยุต เป็นสัญโญชนวิปปยุต สังขารขันธ์เป็น

สัญโญชนสัญโญชนิยะ เป็นสัญโญชนิยโนสัญโญชนะ สังขารขันธ์เป็นสัญโญ-
ชนสัญโญชนสัมปยุต เป็นสัญโญชนสัมปยุตตโนสัญโญชนะ สังขารขันธ์เป็น
สัญโญชนวิปปยุตตสัญโญชนิยะ เป็นสัญโญชนวิปปยุตตอสัญโญชนิยะ สังขาร-
ชนเป็นคันถะ เป็นโนคันถะ สังขารขันธ์เป็นคันถนิยะ เป็นอคันถนิยะ
สังขารขันธ์เป็นคันถสัมปยุต เป็นคันถวิปปยุต สังขารขันธ์เป็นคันถคันถนิยะ
เป็นคันถนิยโนคันถะ สังขารขันธ์เป็นคันถคันถสัมปยุต เป็นคันถสัมปยุตต-
โนคันถะ สังขารขันธ์เป็นคันถวิปปยุตตคันถนิยะ เป็นคันถวิปปยุตตอคันถนิยะ
สังขารขันธ์เป็นโอฆะ เป็นโนโอฆะ สังขารขันธ์เป็นโอฆนิยะ เป็นอโนฆนิยะ
สังขารขันธ์เป็นโอฆสัมปยุต เป็นโอฆวิปปยุต สังขารขันธ์เป็นโอฆโอฆนิยะ
เป็นโอฆนิยโนโอฆะ สังขารขันธ์เป็นโอฆโอฆสัมปยุต เป็นโอฆสัมปยุตตโน-
โอฆะ สังขารขันธ์เป็นโอฆวิปปยุตตโอฆนิยะ เป็นโอฆวิปปยุตตอโนฆนิยะ
สังขารขันธ์เป็นโยคะ เป็นโนโยคะ สังขารขันธ์เป็นโยคนิยะ เป็นอโยคนิยะ
สังขารขันธ์เป็นโยคสัมปยุต เป็นโยควิปปยุต สังขารขันธ์เป็นโยคโยคนิยะ
เป็นโยคนิยโนโยคะ สังขารขันธ์เป็นโยคโยคสัมปยุต เป็นโยคสัมปยุตตโนโยคะ
สังขารขันธ์เป็นโยควิปปยุตตโยคนิยะ เป็นโยควิปปยุตตอโยคนิยะ สังขารขันธ์
เป็นนีวรณะ เป็นโนนีวรณะ สังขารขันธ์เป็นนีวรณิยะ เป็นอนีวรณิยะ
สังขารขันธ์เป็นนีวรณสัมปยุต เป็นนีวรณวิปปุยุต สังขารขันธ์เป็นนีวรณนีวร-
ณิยะ เป็นนีวรณิยโนนีวรณะ สังขารขันธ์เป็นนีวรณนีวรณสัมปยุต เป็น
นีวรณสัมปยุตตโนนีวรณะ สังขารขันธ์เป็นนีวรณวิปปยุตตนีวรณิยะ เป็น
นีวรณวิปปยุตตอนีวรณิยะ สังขารขันธ์เป็นปรามาสะ เป็นโนปรามาสะ
สังขารขันธ์เป็นปรามัฏฐะ เป็นอปรามัฏฐะ สังขารขันธ์เป็นปรามาสสัมปยุต
เป็นปรามาสวิปปยุต สังขารขันธ์เป็นปรามาสปรามัฏฐะ เป็นปรามัฏฐโนปรา-

มาสะ สังขารขันธ์เป็นปรามาสวิปปยุตตปรามัฏฐะ เป็นปรามาสวิปปยุตตอปรา-
มัฏฐะ สังขารขันธ์เป็นอุปาทินนะ เป็นอนุปาทินนะ สังขารขันธ์เป็นอุปาทานะ
เป็นโนอุปาทานะ สังขารขันธ์เป็นอุปาทานิยะ เป็นอนุปาทานิยะ สังขารขันธ์
เป็นอุปาทานสัมปยุต เป็นอุปาทานวิปปยุต สังขารขันธ์เป็นอุปาทานอุปาทานิยะ
เป็นอุปาทานิยโนอุปาทานะ สังขารขันธ์เป็นอุปาทานอุปาทานสัมปยุต เป็น
อุปาทานสัมปยุตตโนอุปาทานะ สังขารขันธ์เป็นอุปาทานวิปปยุตตอุปาทานิยะ
เป็นอุปาทานวิปปยุตตอนุปาทานิยะ สังขารขันธ์เป็นกิเลสะ เป็นโนกิเลสะ
สังขารขันธ์เป็นสังกิเลสิกะ เป็นอสังกิเสสิกะ สังขารขันธ์เป็นสังกิลิฏฐะ เป็น
อสังกิลิฏฐะ สังขารขันธ์เป็นกิเลสสัมปยุต เป็นกิเลสวิปปยุต สังขารขันธ์เป็น
กิเลสสังกิเลสิกะ เป็นสังกิเลสิกโนกิเลสะ สังขารขันธ์เป็นกิเลสสังกิลิฏฐะ เป็น
สังกิลิฏฐโนกิเลสะ สังขารขันธ์เป็นกิเลสกิเลสสัมปยุต เป็นกิเลสสัมปยุตตโน-
กิเลสะ สังขารขันธ์เป็นกิเลสวิปปยุตสังกิเลสิกะ เป็นกิเลสวิปปยุตตอสังกิเลสิกะ
สังขารขันธ์เป็นทัสสนปหาตัพพะ เป็นนทัสสหปหาตัพพะ. สังขารขันธ์เป็น
ภาวนาปหาตัพพะ เป็นนภาวนาปหาตัพพะ สังขารขันธ์เป็นทัสสนปหาตัพพะ
เหตุกะ เป็นนทัสสนปหาตัพพเหตุกะ สังขารขันธ์เป็นภาวนาปหาตัพพเหตุกะ
เป็นนภาวนปหตัพพเหตุกะ สังขารขันธ์เป็นสวิตักกะ เป็นอวิตักกะ สังขาร-
ขันธ์เป็นสวิจาระ เป็นอวิจาระ สังขารขันธ์เป็นสัปปีติกะ เป็นอัปปีติกะ
สังขารขันธ์เป็นปีติสหคตะ เป็นนปีติสหคตะ สังขารขันธ์เป็นสุขสหคตะ
เป็นนสุขสหคตะ สังขารขันธ์เป็นอุเปกขาสหคตะ เป็นนอุเปกขาสหคตะ
สังขารขันธ์เป็นกามาวจร เป็นนกามาวจร สังขารขันธ์เป็นรูปาวจร เป็น
นรูปาวจร สังขารขันธ์เป็นอรูปาวจร เป็นนอรูปาวจร สังขารขันธ์เป็น
ปริยาปันนะ เป็นอปริยาปันนะ สังขารขันธ์เป็นนิยยานิกะ เป็นอนิยยานิกะ

สังขารขันธ์เป็นนิยตะ เป็นอนิยตะ สังขารขันธ์เป็นสอุตตระ เป็นอนุตตระ
สังขารขันธ์เป็นสรณะ เป็นอรณะ สังขารขันธ์หมวดละ 3 คือ สังขารขันธ์
เป็นกุศล เป็นอกุศล เป็นอัพยากฤต ฯลฯ สังขารขันธ์หมวดละ 10 ด้วย
ประการฉะนี้.
[67] สังขารขันธ์หมวดละ 1 คือ สังขารขันธ์เป็นจิตตสัมปยุต.
สังขารขันธ์หมวดละ 2 คือ สังขารขันธ์เป็นสรณะ เป็นอรณะ สังขารขันธ์
หมวดละ 3 คือ สังขารขันธ์เป็นสุขเวทนาสัมปยุต เป็นทุกขเวทนาสัมปยุต
เป็นอทุกขมสุขเวทนาสัมปยุต ฯลฯ สังขารขันธ์เป็นอัชฌัตตารัมมณะ เป็น
พหิทธารัมมณะ เป็นอัชฌัตตพหิทธารัมมณะ ฯลฯ สังขารขันธ์หมวดละ 10
ด้วยประการฉะนี้.
ทุกมูลกวาร จบ

[ติกมูลกวาร]


[68] สังขารขันธ์หมวดละ 1 คือ สังขารขันธ์เป็นจิตตสัมปยุต.
สังขารขันธ์หมวดละ 2 คือ สังขารขันธ์เป็นเหตุ เป็นนเหตุ. สังขารขันธ์
หมวดละ 3 คือ สังขารขันธ์เป็นกุศล เป็นอกุศล เป็นอัพยากฤต ฯลฯ
สังขารขันธ์หมวดละ 10 ด้วยประการฉะนี้.
สังขารขันธ์หมวดละ 1 คือ สังขารขันธ์เป็นจิตตสัมปยุต. สังขารขันธ์
หมวดละ 2 คือ สังขารขันธ์เป็นสรณะ เป็นอรณะ สังขารขันธ์หมวดละ 3
คือ สังขารขันธ์เป็นกุศล เป็นอกุศล เป็นอัพยากฤต ฯลฯ สังขารขันธ์
หมวดละ 10 ด้วยประการฉะนี้.
สังขารขันธ์หมวดละ 1 คือ สังขารขันธ์เป็นจิตตสัมปยุต. สังขารขันธ์
หมวดละ 2 คือ สังขารขันธ์เป็นเหตุ เป็นนเหตุ. สังขารขันธ์หมวดละ 3