เมนู

กุศลจิตประกอบด้วยเหตุกะเป็นสสังขาริกก็ดี กุศลจิตที่ประกอบด้วย
อสังขาริกและสสังขาริกสหรคตด้วยอุเบกขาก็ดี ประกอบ (ทำ) กรรมแล้ว
ปฏิสนธิอันวิบากจิตเช่นเดียวกับจิตที่ทำกรรมแล้วนั้นให้ผลแล้ว ก็มีนัยนี้
เหมือนกัน. ก็จิตสหรคตด้วยอุเบกขา 2 ดวง บัณฑิตพึงแสดงความเป็นไป
ครั้งแรกด้วยอำนาจอิฏฐมัชฌัตตารมณ์ ภายหลังจึงควรแสดงด้วยอำนาจอิฏฐา-
รมณ์. ในทวารแต่ละทวารเป็นวิบากจิตทวารละ 12 ดวง รวมเป็นจิต 60 ดวง
ถ้วนแม้ด้วยประการฉะนี้. เมื่อว่าโดยการถือเอาวิบากจิตที่ยังมิได้ถือเอาก็ได้
วิบากจิต 16 ดวง.

อุปมาวิบาตจิตเปรียบด้วยคนหีบอ้อย


ในฐานะนี้ท่านถือเอาเรื่อง ชื่อว่า นาฬิยันโตปมะ เปรียบด้วยนัยว่า
ในเวลาที่คั้นอ้อยมีคนหีบอ้อย 11 คน ถือเครื่องคั้นอ้อยออกจากบ้านหนึ่งพบ
แหล่ง (ศูนย์รวม) อ้อยแห่งหนึ่ง ทราบว่าอ้อยนั้นแก่แล้ว จึงเข้าไปหาเจ้าของ
อ้อยแล้วพูดว่า พวกเรารับจ้างหีบอ้อย เจ้าของอ้อยตอบว่า เรากำลังหาพวก
ท่านเหมือนกัน แล้วพาชนเหล่านั้นไปโรงหีบอ้อย พวกคนรับจ้างเหล่านั้น
ตระเตรียมเครื่องหีบอ้อยแล้วพูดว่า พวกเรามี 11 คน ได้อีกหนึ่งคนกะจะได้
รับค่าจ้างพอดี เจ้าของอ้อยพูดว่า เรานี้แหละเป็นสหายช่วยท่าน แล้วขน
อ้อยไปเต็มโรงจึงได้เป็นสหายช่วยเหลือชนเหล่านั้น ชนเหล่านั้นทำกิจของตนๆ
เคี้ยวน้ำอ้อยข้นทำเป็นงบน้ำอ้อยแล้ว เมื่อเจ้าของพิจารณาให้ส่วนแบ่งแล้วก็ถือ
เอาส่วนของตน ๆ มอบโรงอ้อยให้แก่เจ้าของโดยอุบายนี้แหละ ทำการงาน
โรงอ้อย 4 หลัง อื่นอีกแล้วหลีกไป.
ในข้อนั้น ประสาททั้ง 5 พึงเห็นเหมือนโรงเครื่องยนต์ 5 แห่ง
อารมณ์ 5 พึงเห็นเหมือนแหล่งอ้อย 5 แห่ง วิบากจิต 11 ดวง พึงเห็นเหมือน