เมนู

ส่วนปฏิฆะเกิดร่วมกัน 2 อย่าง อย่างนี้ คือ เกิดร่วมกับโมหะ
อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะในอสังขาริกจิต 1 เกิดร่วมกับโมหะ ถีนะ
อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะในสสังขาริกจิต 1.
ส่วนโมหะเกิดร่วมกัน 2 อย่าง คือ เกิดพร้อมกับวิจิกิจฉา อุทธัจจะ
อหิรกะ อโนตตัปปะในจิตที่สัมปยุตด้วยวิจิกิจฉา 1 เกิดพร้อมกับอุทธัจจะ
อหิริกะ อโนตตัปปะในจิตที่สัมปยุตด้วยอุทธัจจะ 1. คำที่เหลือในที่ทั้งปวง มี
เนื้อความตื้นทั้งนั้นแล.
อัฏฐกถากัณฑวรรณนา
แห่งอัฏฐสาลินี อรรถกถาธรรมสังคณี จบ

นิคมกถา


ก็ด้วยคำมีประมาณเท่านี้
พระโลกนารถเจ้า เมื่อจะทรงจำแนก
จิตตุปปากัณฑ์ รูปกัณฑ์ นิกเขปกัณฑ์ และ
อัตถุทธารกัณฑ์ อันน่ารื่นรมย์ใจ ทรงแสดง
พระธรรมสังคณีใด การพรรณนาเนื้อความ
แห่งพระธรรมสังคณีที่ได้ทรงรวบรวมธรรม

โดยสิ้นเชิงแห่งพระอภิธรรมปิฏก ซึ่งทรงตั้ง
ไว้แล้วนั้น ข้าพเจ้าได้เริ่มแล้ว การ
พรรณนาเนื้อความนี้นั้นเข้าถึงความสำเร็จ
แล้ว โดยชื่อว่า อัฏฐสาลินี เพราะมี้เนื้อความ
ไม่อากูลโดยพระบาลี 39 ภาณวาร เพื่อความ
ตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม

กุศลใด ที่ข้าพเจ้ายังอรรถวรรณนา
ให้จบลงนั้นสำเร็จแล้วด้วยอานุภาพแห่งกุศล
นั้น ขอสัตว์แม้ทั้งหมด จงรู้พระธรรมของ
พระธรรมราชา อันนำมาซึ่งความสุขแล้ว จง
บรรลุสันติสุขคือพระนิพพานอันยอดเยี่ยม หา
ความโศกมิได้ ไม่มีความคับแค้นใจ ด้วยข้อ
ปฏิบัติอันบริสุทธิ์โดยง่าย

ขอพระสัทธรรมจงดำรงอยู่สิ้นกาล
นาน ขอเหล่าสัตว์แม้ทั้งหมด จงเคารพธรรม
ขอฝนจงตกต้องตามฤดูกาล พระราชาแต่
เก่าก่อนทรงคุณธรรมอันดี ทรงปกครองปวง
ประชาโดยธรรมฉันใด ขอพระราชาปัจจุบัน
จงทรงปกครองปวงประชา โดยธรรม ดุจ
พระโอรสของพระองค์ ฉันนั้นเถิด.

อรรถกถาธรรมสังคณี ชื่อว่า อัฏฐสาลินี นี้ อันพระเถระผู้มีนาม
ที่ครูทั้งหลายขนาน1 แล้วว่า พุทธโฆสะ ผู้ประดับด้วย ศรัทธา ปัญญา
และวิริยะอันหมดจดอย่างยิ่ง ผู้ยังหมู่แห่งคุณมีศีลอาจาระความซื่อตรง ความ
อ่อนโยนเป็นต้นให้ตั้งขึ้นแล้ว ผู้สามารถหยั่งลงสู่ชัฏ (การวินิจฉัยข้อความ
ที่ยุ่งยาก) ในความแตกต่างกันแห่งลัทธิของตนและคนอื่น ผู้ประกอบด้วย
ความเฉลียวฉลาดด้วยปัญญา ผู้มีปรีชาญาณอันไม่ติดขัดในสัตถุศาสน์ อัน
ต่างด้วยปริยัติคือ พระไตรปิฎก พร้อมทั้งอรรถกถา ผู้เป็นมหาไวยากรณ์
ผู้อธิบายเนื้อความได้กว้างขวาง ผู้ประกอบด้วยถ้อยคำไพเราะอันเลิศซึ่งเปล่ง
ออกไปได้คล่องแคล่วอันเกิดแต่กรณสมบัติ เป็นนักพูดชั้นเยี่ยมโดยทั้งผูกทั้งแก้
เป็นมหากวี เป็นอลังการแห่งวงศ์ของเหล่าพระเถระฝ่ายมหาวิหารซึ่งเป็นประทีป
แห่งเถรวงศ์2 ผู้มีความรู้อันตั้งมั่นดีแล้วในอุตริมนุสธรรมประดับด้วยคุณมี
การแตกฉานในอภิญญา 6 เป็นต้น มีปฏิสัมภิทาอันแตกฉานแล้วเป็นบริวาร
เป็นผู้มีความรู้ไพบูลย์ และหมดจดวิเศษแล้ว รจนาไว้.
ขออรรถกถาธรรมสังคณีชื่อ อัฏฐสา-
ลินีนี้ อันแสดงนัยแห่งปัญญาวิสุทธิ์ แก่กุล
บุตรทั้งหลาย ผู้แสวงหาธรรมเครื่องสลัดออก
จากโลก จงดำรงอยู่ในโลกตราบเท่าพระนาม
ว่า "พุทโธ" ของพระโลกเชษฐเจ้า ผู้เป็น
พระมหาฤๅษี ผู้มีพระทัยบริสุทธิ์ ผู้คงที่ ยัง
เป็นไปในโลก เทอญ.

1. ในที่นี้กล่าว นามเธยฺย (การตั้งชื่อ) เป็นของพระพุทธโฆสาจารย์ที่ครูทั้งหลายขนานให้มีถึง
13 บท.
2. เถรวงศ์ หมายถึงพระมหากัสสปเถระเป็นต้น และคำว่า " ผู้มีความรู้อันตั้งมั่นดีแล้วใน
อุตริมนุสธรรมประดับด้วยคุณมีการแตกฉานในอภิญญา 6 เป็นต้น มีปฏิสัมภิทาอันแตกฉาน
ดีแล้วเป็นบริวาร" เหล่านี้ เป็นคุณของพระมหากัสสปเถระเป็นต้น.